หลังจากที่คุณได้พูดคุยกับทางเจ้านาย เสร็จสิ้น ไม่ว่าผลจะเป็นอย่างไร จะได้รึไม่นั้น สิ่งที่คุณได้ทำออกไปถือว่าเป็นการผลักดันตัวเองในทางที่ดีนะค่ะ และคุณควรจะ ชื่นชมตัวเองที่มีความกล้ามากพอที่จะเข้าไปขอ และบางทีการได้ทำแบบนี้เป็นการสร้างกำลังใจ ว่าอย่าคาดหวังว่าจะได้อย่างที่อยากได้ “ขอให้มองว่าคุณได้สร้างเหตุไว้แล้ว เดี๋ยวผลก็ตามมาเองจะดีกว่า” เมื่อผลมาถึง ไม่ว่าจะได้เท่าที่หวังหรือไม่ ควรเข้าไปขอบคุณหัวหน้าและให้สัญญาว่าจะทำงานเต็มที่ ถ้าการพูดคุยไม่สำเร็จก็อย่าท้อ เพราะอย่างน้อยคุณก็ได้เรียนรู้ เก็บเหตุการณ์นี้ไว้เป็นประสบการณ์ และกลับไปทำงานให้เต็มที่อีกสักพัก ค่อยขอใหม่ก็ไม่ใช่เรื่องผิดคร้า
ขอบคุณข้อมูลจาก ขอ Up เงินเดือน อย่างไร ให้ได้จริง
หากคุณมีความพร้อม..แล้ว ต่อไปเป็นการขอนัดหมาย เพื่อพูดคุยกัน แต่อย่าลืมดูสถานการณ์ด้วยนะค่ะ ว่าช่วงเวลานั้นเจ้านายคุณสะดวกหรือไม่ ส่วนใหญ่บริษํทมักจะปรับขึ้นเงินเดือน ช่วงเวลาขอนัดหมายอาจจะเป็นช่วงเวลาที่จะประเมินผลการทำงาน หรือบางบริษัทก็มักจะปรับขึ้นช่วงปีใหม่ แล้วจึงขอนัดระบุความตั้งใจและเวลาให้ชัดเจน “เรื่องขอฟีดแบ็กเกี่ยวกับผลงาน พอจะมีเวลาสักครึ่งชั่วโมงไหมคะ ?” หรือหากเจ้านายของคุณเป็นคนที่เปิดมากพอก็อาจจะบอกไปตั้งแต่ตอนนัดหมายนี้ เลยก็ได้ว่าคุณอยากจะขอปรับขึ้นเงินเดือน
012956_0711_1
Step 4 : พูดอย่างไรเพื่อโน้มน้าวไปทางที่ดี ระหว่างพูดคุย
ระหว่างพูดคุยที่ก็ถือว่าเป็นเรื่องสำคัญมาก เป็นโอกาสที่คุณต้องพยายามโน้มน้าวว่า ศักยภาพของคุณเหมาะสมกับเงินเดือนที่ขอไป เรามีเทคนิคโดยเริ่มพูดจาก…
ขอบคุณที่ให้โอกาสนัดพบ ชี้แจงว่าคุณเป็นพนักงานที่ทุ่มเท และอยากจะอยู่กับองค์กรไปนานๆ
ขอความเห็นจากเจ้านายเกี่ยวกับผลงานที่คุณเคยทำมา เพื่อเปิดโอกาสให้เจ้านายได้พูดก่อน และรับฟังทุกคำพูดอย่างตั้งใจ
บอกเล่าความสำเร็จที่คุณเคยทำมาให้เจ้านายได้รับทราบ รวมถึงแผนที่คุณจะทำ เพื่อให้องค์กรได้ผลประโยชน์เพิ่มในอนาคต ชี้แจงให้เห็นว่าคุณทำงานได้เกินเงินเดือนปัจจุบัน และคุ้มเงินเดือนที่กำลังจะขอที่สุด
บอกไปตรงๆ ว่าอยากจะได้เงินเดือนเพิ่มขึ้น และชี้แจงตัวเลขที่ต้องการเพื่อให้เจ้านายพิจารณา แต่หากเจ้านายดูอารมณ์ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ก็อาจจะขอให้เจ้านายพิจารณาตัวเลขที่เหมาะสมเองก็ได้ จากนั้นก็ปิดท้ายด้วยการขอบคุณที่ให้โอกาสพูดคุย และขอให้ทุกสิ่งขึ้นกับการตัดสินใจของเจ้านาย
ดาวน์โหลด
Step 1 : ตอบคำถามเหล่านี้กับตัวเองให้ได้เสียก่อน
งานที่คุณทำมีคุณค่า มีความสำคัญกับองค์กรแค่ไหน ? งานนี้มีความสำคัญอะไรกับองค์กร ?
เตรียมใจพร้อมหรือยัง ? คุณกล้าพอไหมที่จะเดินเข้าไปขอ ?
อยากได้เงินเดือนเท่าไหร่ ? ควรจะบอกให้ได้เป็นตัวเลขที่ชัดเจน
คุณเคยสร้างผลงานหรือผลประโยชน์อะไรให้กับองค์กรบ้าง ? ซึ่งควรจะเป็นความสำเร็จที่วัดผลเป็นตัวเลขได้ชัดเจน แต่หากวัดผลไม่ได้ก็ควรมีข้อมูลที่เป็นหลักฐานว่าคุณทำงานได้ดี
Up Eng Skill
คนไหนที่ภาษาไม่แข็งแรง รีบ up Eng skill ด่วน ความต้องการในบุคลากรที่ใช้ภาษา Eng ได้แคล่วคล่อง มากขึ้นต่อเนื่องมาตลอด พร้อมกับการเข้ามาลงทุนของนักลงทุนต่างชาติ และเตรียมการขยายสาขากันในกลุ่มประเทศ AEC คุณต้องรีบรื้อฟื้น ทักษะภาษา โดยเฉพาะการพูด หลังจากนั้นค่อยฝึก อ่าน และ เขียน ในลำดับต่อไป การที่คุณมีทักษะภาษาอังกฤษที่ดี หรือดีมาก จะทำให้คุณมีโอกาสในการ up เงินเดือนสูงขึ้นมากทั้งจากในองค์กรเดิม หรือย้ายที่ทำงานใหม่
Up ภาษาที่ 3 หรือ 4
การที่คุณสามารถพูดได้มากว่า 2 ภาษา เป็นสิ่งทำให้ตัวคุณนั้นดูเป็นคนมีความสามารถ หากคนไหนที่กำลังมองหาทักษะเพิ่มเติม แนะนำเลยค่ะ การเรียนภาษาที่ 3 หรือ 4 อย่ารอช้า ภาษาในต่างประเทศ เช่น ภาษาจีนกลาง ภาษาญี่ปุ่น ภาษาเยอรมัน ภาษาเกาหลี หรือ ภาษาในกลุ่ม AEC ( เขมร เมียนมาร์ อินโดนิเซีย ) หรือ ภาษาอาหรับ เป็นต้น
เพิ่ม specialities ในตัวคุณ
หาความรู้ เพิ่งความสามารถพิเศษให้กับตัวคุณสิค่ะ อาจเป็นการต่อยอดจากสิ่งที่คุณเรียนมา เช่น งาน IT ซึ่งงานสามารถแยกแตกหนอออกไปอีก คุณอาจจะเพิ่มเติมจากสาขาที่เรียน ในด้านการทำ graphic2D 3D หรือ infographic, ทำ Application ใน smartphone หรือ เป็น marketing ที่มีความรู้ความสามารถในเรื่อง social media เป็นต้น
ลงทุนเรียนต่อในระดับที่สูงขึ้น
คุณอาจจะศึกษาต่อในสาขาที่คุณรักและเป็นที่ต้องการของตลาด เพื่อเพิ่มโอกาสให้ตัวคุณเอง ส่วนใหญ่แล้วบริษัทใหญ่ๆจะปรับฐานเงินเดือนเวลาคุณไปเรียนต่อในสาขาที่เกี่ยวข้องกับงานที่คุณทำหรือสาขาบริษัทต้องการ