About nananews

Manual Description Here: Ea eam labores imperdiet, apeirian democritum ei nam, doming neglegentur ad vis.

ใครที่กำลังทรมานกับการปวดฟันอยู่ เมื่อใช้สิ่งนี้...อาการปวดจะหายไปในไม่กี่วินาที

















ใครที่กำลังทรมานกับการปวดฟันอยู่ เมื่อใช้สิ่งนี้...อาการปวดจะหายไปในไม่กี่วินาที

เมื่อปลายประสาทฟันอักเสบคุณจะมีอาการปวดฟัน


อาการนี้อาจเกิดจาก...

- โรคเหงือก
- การติดเชื้อทางทันตกรรม
- ภาวะการหยุดหายใจขณะหลับ
- ฟันแตกหรือร้าว
- ความผิดปกติข้อต่อขากรรไกร (TMJ)
- การถอนฟัน
- การอุดฟันหรือครอบฟันไม่ดี

ถ้าคุณมีอาการปวดฟัน คุณควรไปพบทันตแพทย์ แต่อาการปวดฟันไม่เคยมีสัญญาณเตือนใดๆมักเกิดขึ้นในเวลาแปลกๆที่ทำให้คุณไม่สามารถไปพบหมอฟันได้
ในสถานการณ์เช่นนี้ คุณสามารถทำสูตรพิเศษเพื่อบรรเทาอาการปวดฟันได้ง่ายๆที่บ้าน

นี่คือวีธีรักษาธรรมชาติที่คุณสามารถลองทำเพื่อบรรเทาอาการปวดฟันได้ในเวลาเพียงไม่กี่วินาที

ส่วนผสม

- กระเทียมผง หรือ กระเทียมป่นแห้ง  1/2 ช้อนชา
- น้ำมันมะพร้าว  1/2 ช้อนชา

วิธีทำ

- ผสมส่วนผสมทั้งหมดลงในแก้วและผสมให้เป็นเนื้อเดียวกัน
- ใช้แปรงสีฟันของคุณทาส่วนผสมบริเวณฟันที่มีปัญหา
- ใช้ส่วนผสมนี้ 3 ครั้งต่อวัน



http://www.share-si.com/2016/07/blog-post_6.html
Read More...

ใครเป็าฝ้า มาทางนี้!! แจกสูตรโลชั่นผักรักษาฝ้า ทำเองได้ง่ายๆ!
































ใครเป็าฝ้า มาทางนี้!! แจกสูตรโลชั่นผักรักษาฝ้า ทำเองได้ง่ายๆ!


ฝ้า กระ และจุดด่างดำบริเวณใบหน้าถือได้ว่าเป็นปัญหาที่กวนใจสาวๆส่วนใหญ่ สาเหตุนั้นเกิดขึ้นจากหลายปัจจัยด้วยกันเช่นแสงแดด ความร้อน ระดับฮอร์โมนในร่างกายและพันธุกรรม ซึ่งส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นในวัยกลางคนอายุ 30-40 ปี และร้อยละ 90 นั้นเป็นผู้หญิง


ฝ้าจะมีลักษณะแตกต่างจากกระก็คือ ฝ้าจะมีการกระจายตัวในวงกว้างกว่า และส่วนใหญ่จะเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมนในร่างกายซึ่งจะทำให้เกิดการผลิตเม็ดสีผิวที่ผิดปกติขึ้นเช่น หญิงช่วงตั้งครรภ์ โดยฝ้าแบ่งเป็น 2 ชนิดคือ ฝ้าแบบตื้นและฝ้าแบบลึก


1. ฝ้าแบบตื้น

เกิดขึ้นในผิวหนังชั้นนอกหรือชั้นหนังกำพร้า จะมีลักษณะเป็นขอบสีน้ำตาล สามารถเกิดขึ้นได้ง่ายและรักษาได้เร็วจากการทายารักษาฝ้าและทาครีมกันแดดอย่างสม่ำเสมอ

2. ฝ้าแบบลึก

เกิดขึ้นในชั้นหนังแท้และมีลักษณะเป็นสีม่วงอมน้ำเงิน อาจไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้แต่ยาทาฝ้าและครีมกันแดดสามารถช่วยไม่ให้เกิดเพิ่มขึ้นได้

แต่วันนี้คุณอาจไม่ต้องพึ่งยาและคอร์สรักษาฝ้าอีกต่อไป เพียงแค่ทำโลชั่นรักษาฝ้าตามสูตรนี้!

สิ่งที่คุณต้องเตรียมนั้นมีแค่ 4 อย่างเท่านั้นคือ เปลือกแตงกวา, เปลือกหัวไชเท้า, เปลือกมะเขือเทศและสารส้ม โดยทำตามขั้นตอนง่ายๆดังนี้

1. นำเปลือกแตงกวา, เปลือกหัวไชเท้า, เปลือกมะเขือเทศอย่างละ 1 ช้อนโต๊ะ
2. สารส้มขนาดเท่าเมล็ดข้าวโพด
3. ผสมส่วนผสมจากข้อ 1 และ 2 เข้าด้วยกันและบดให้ละเอียด คั้นเฉพาะน้ำออกมาเท่านั้น
4. ทาทิ้งไว้บริเวณที่มีฝ้า ทิ้งไว้ประมาณ 20 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด
5. ควรทำช่วงตอนเย็นเนื่องจากห้ามออกแดดหรือทาครีมใดๆภายใน 12 ชั่วโมงหลังจากที่ทาโลชั่น

ขอบคุณข้อมูลจาก http://www.thaijobsgov.com/jobs=52473
Advertisements





http://www.share-si.com/2016/07/blog-post_0.html




Read More...

สูตรฮิต!! น้ำมะนาวลดความอ้วน ลดพุง แค่ดื่มก่อนนอน ตอนเช้าพุงยุบแน่













สูตรฮิต!! น้ำมะนาวลดความอ้วน ลดพุง แค่ดื่มก่อนนอน ตอนเช้าพุงยุบแน่!!

สำหรับคนที่กำลังกังวลกับเรื่องน้ำหนัก เรื่องพุงที่ล้ำหน้าออกมา วันนี้เรามีวิธีแบบธรรมชาติมานำเสนอ โดยสูตรนี้ไม่ได้มีมั่วๆขึ้นมานะคะ แต่เป็นสูตร ของ


คุณกิติพงษ์ ปังศรีวินิจ อาจารย์หมอกดจุดปรับสมดุลร่างกาย ประจำสำนักแพทย์ทางเลือกกระทรวงสาธารณสุข เลยทีเดียวค่ะ แค่ดื่มก่อนนอนตื่นเช้ามาพุงยุบแน่นอน แถมยังช่วยลดไขมันในเลือด ทำให้ร่างกายเราแข็งแรงขึ้นแน่นอนค่ะ


อุปกรณ์ที่ต้องเตรียม

1. น้ำมะนาว 1 ลูก
2. น้ำอุ่น 200 cc.
3. น้ำตาลทรายแดง หรือ น้ำผึ้ง 2 ช้อนชา
4. เกลือ ประมาณปลายช้อนชา

ขั้นตอนการทำ

1. ชงน้ำตาลทรายแดงกับเกลือในน้ำอุ่นคนให้เข้ากัน ทิ้งไว้สักครู่เพื่อให้น้ำเย็นลง
2. เมื่อน้ำเย็นลงแล้ว ใส่น้ำมะนาวลงไป แล้วทานได้เลย หรือจะใส่ในน้ำแข็งทานเพื่อเพิ่มรสชาติก็ได้ค่ะ

โดยเวลาที่ดีที่สุด คือทานก่อนนอนสัก 15-20 นาทีค่ะ ซึ่งน้ำตาลทรายแดงจะทำให้ความหวานกำลังดีอร่อยกลมกล่อม ถ้าเราใช้น้ำตาลทรายขาวรสชาติจะหวานแหลม ทานประจำทุกๆวัน 4 เดือนก็เห็นผล เอวจะค่อยๆลดลง ยิ่งถ้าได้ทานทุกๆวัน ได้รับวิตามิน C แคลเซียม ทำให้ร่างกายแข็งแรง ไม่เป็นหวัดง่าย กระดูกแข็งแรง ไขมันในเลือดก็จะลดลงกรดยูลิกก็จะลดลงไตกรีนเซอร์ไลก็จะปกติ ไขมันเลวก็จะลดลงไขมันดีจะเพิ่มขึ้น

ลองทำกันดูนะคะ เพียงแค่ทานทุกวันก่อนนอน พุงยุบ ผิวสดใส สุขภาพดี ครบเซ็ทเลยทีเดียวค่ะ



http://www.share-si.com/2016/07/blog-post_0.html
Read More...

เผยหมดเปลือกเคล็ดลับกะหล่ำปลีทอดน้ำปลา ทำไมถึงแพง มาดูเคล็ดลับ ที่ถูกเปิดโปง


















กะหล่ำปลีทอดน้ำปลา ทำไมถึงแพง มาดูเคล็ดลับ ที่ถูกเปิดโปง


กะหล่ำปลีทอดน้ำปลาเป็นเมนูง่าย ๆ ที่รับประทานได้ทุกมื้ออาหาร รับประทานกับข้าวสวยอร่อยจริงเชียว วันนี้เราจึงมีสูตรการทำกะหล่ำปลีทอดน้ำปลา จาก คุณมันแกวกะแห้วหมู สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม มาฝาก พร้อมเคล็ดลับความอร่อยที่จะมาเปิดโปงให้เราได้รู้กัน ลองไปดูกันว่าจะออกมาชวนหิวขนาดไหน



สิ่งที่ต้องเตรียม


กะหล่ำปลีขนาดย่อม ๆ 1 หัว ควรเลือกที่ยังสดอยู่

วิธีสังเกตความสดคือ ถ้าแกะใบออกดจะกรอบ แตก หักง่าย ไม่ค่อยยอมออกมาเป็นใบ ๆ แต่ถ้าลองหักก้านใบ แล้วเอาแต่โค้งงอไม่หักสักที แสดงว่าไม่ค่อยสดแล้วทำออกมาจะไม่อร่อย





http://www.share-si.com/2016/07/blog-post_0.html




Read More...

ข้าวโพดต้ม ล้มโรคร้าย สรรพคุณสามารถต้านเซลล์โรคมะเร็ง ขอแค่ทำให้ถูกวิธี!



















ข้าวโพดต้ม ล้มโรคร้าย สรรพคุณสามารถต้านเซลล์โรคมะเร็ง ขอแค่ทำให้ถูกวิธี!

"ข้าวโพดต้ม ล้มโรคร้าย" สรรพคุณสามารถต้านเซลล์โรคมะเร็ง อีกทั้งมีสารออกฤทธิ์ล้างพิษของพวกอนุมูลอิสระตัวอันตรายต่อเซลล์อวัยวะต่างๆ ในร่างกายสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเจน


ผักผลไม้สดๆจะได้ประโยชน์จากสารอาหารได้ดีกว่าการทำสุกโดยผ่านความร้อน แต่ทฤษฎีนี้เห็นที่จะใช้ไม่ได้กับข้าวโพดแล้ว..แล้วเจ้าข้าวโพดหวานนี้นะ มีสรรพคุณสามารถต้านโรคมะเร็ง อีกทั้งมีสารล้างพิษมากกว่าผักผลไม้อื่นๆ ซะด้วยนะ…

นักวิจัยของมหาวิทยาลัยคอร์เนลล์แห่งสหรัฐอเมริกา รายงานผลการวิจัยลงในวารสารสมาคมเคมีแห่งอเมริกาว่า ข้าวโพดหวานที่ปรุงสุกแล้ว จะออกฤทธิ์ล้างพิษในร่างกายสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเจน

เมื่อก่อนนี้เราจะมีความเชื่อกันว่า ผักและผลไม้ที่ปรุงสุกแล้วจะเสียคุณค่าทางอาหาร จึงนิยมกินกันดิบๆ แต่คิดดีๆใครจะแทะข้าวโพดดิบๆกินกันล่ะคะ…ซึ่งนับว่าโชคดีทีเดียว เพราะข้าวโพดหวานเป็นพืชที่แม้ปรุงสุกแล้ว แต่ยังคงเก็บพลังเป็นตัวล้างพิษไว้ได้อย่างดี ถึงจะเสียวิตามินซีไปบ้างก็ตามที ซึ่งก็อย่าได้แคร์ เพราะเราไม่ได้หวังวิตามินซีจากข้าวโพดเป็นหลักอยู่แล้วนี่


ข้าวโพดต้ม ล้มโรคร้าย


นักวิจัยทำการทดลองด้วยการต้มข้าวโพดหวานด้วยอุณหภูมิสูง 115 องศาเซลเซียส ในเวลานานต่างกัน 10, 25, และ 50 องศาเซลเซียส ผลปรากฎว่า ยิ่งต้มนาน ก็จะยิ่งทำให้มีสารซึ่งเป็นตัวล้างพิษเพิ่มขึ้น 22, 44 และ 53 เปอร์เซนต์ตามลำดับ ซึ่งนักวิจัยเชื่อว่า สารที่ออกฤทธิ์เป็นตัวล้างพิษนี้จะช่วยทำลายล้างพิษของพวกอนุมูลอิสระตัวอันตรายต่อเซลล์อวัยวะต่างๆ อีกทั้งยังเป็นตัวก่อการร้ายที่จะทำให้เกิดโรคที่มีเหตุมาจากความชรา เช่น ต้อกระจก, โรคสมองเสื่อม รวมทั้งโรคร้ายอย่างหัวใจ และมะเร็งด้วย

พระเอกของเราที่รับบทเป็นตัวล้างพิษนี้ คือ กรดเฟรุลิก (Ferulic acid) กรดอินทรีย์ที่เป็นสารสำคัญช่วยทำให้ระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายมีประสิทธิภาพ เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ จึงถูกใช้สำหรับต่อต้านความชรา ป้องกันการเกิดเซลล์มะเร็ง โรคหัวใจ ไข้หวัด รักษาสุขภาพของกล้ามเนื้อ ต่อต้านผลกระทบจากรังสีอัลตราไวโอเลตซึ่งเป็นสาเหตุของมะเร็งผิวหนัง

นักวิจัยกลุ่มนี้กล่าวว่า ข้าวโพดหวานต้มหรือปิ้ง จะปล่อยสารประกอบที่เรียกว่า กรดเฟรุลิก ออกมา ยิ่งผ่านความร้อนสูงก็ยิ่งออกมามาก ก็ยิ่งเป็นประโยชน์ต่อร่างกาย เนื่องจากกรดเฟรุลิกจัดอยู่ในพวกพฤษเคมี ซึ่งในผักและผลไม้มีอยู่ไม่มากนัก แต่อุดมอยู่ในฝักข้าวโพด ดังนั้นการทำสุกจึงช่วยให้มันปล่อยกรดเฟรุลิกออกมาได้มากขึ้น

นอกจากจะช่วยต้านความเสี่ยงการเป็นโรคร้ายอย่างมะเร็งแล้ว สำหรับคนที่เป็นมะเร็งที่รับการทำคีโม กินข้าวโพดต้มจะเป็นผลดีนะ เพราะเจ้าสารล้างพิษนี้จะไปล้างพิษเคมีที่เกิดจากการทำคีโมได้





http://www.share-si.com/2016/07/blog-post_16.html
Read More...

สหพันธ์แรงงาน ตั้งข้อสังเกตปลดพนักงานโตโยต้า


















สหพันธ์แรงงานยานยนต์แห่งประเทศไทย ตั้งข้อสังเกตถึงการปรับลดพนักงานของบริษัทโตโยต้าว่าอาจไม่ใช่เหตุผลด้านผลประกอบการ เนื่องจากผลประกอบการเดือนเมษายนมีผลกำไรสูงเป็นอันดับ 2 ของประเทศ

ขณะเดียวกันสงสัยว่าบริษัทโตโยต้า จะนำเครื่องจักรมาใช้แทนคนหรือไม่ หากเป็นเช่นนั้นก็เข้าข่ายขัดกฎหมาย เพราะต้องแจ้งล่วงหน้า 60 วันและจ่ายเงินชดเชยมากกว่านี้

สำหรับพนักงานแบบเหมาค่าแรง ที่ถูกบริษัทยื่นข้อเสนอสมัครใจลาออกยอมรับว่า ตั้งตัวไม่ทันเพราะไม่มีการแจ้งล่วงหน้า และไม่มั่นใจว่าในอนาคตจะหางานใหม่ได้อีกหรือไม่



http://money.sanook.com/398013/
Read More...

เกษตรกรพัทลุงโค่นต้นยางปลูกหม่อนสดขาย










เกษตรกร จ.พัทลุง ตัดสินใจโค่นยางพาราทิ้ง หันปลูกหม่อนสดขาย สร้างรายได้เสริม

เกษตรกรชาวสวนยางพัทลุง ตัดสินใจตัดต้นยางพาราทิ้งในเนื้อที่ 2 ไร่ ทดลองปลูกต้นหม่อนสด ซึ่งได้รับสนับสนุนต้นพันธุ์จากศูนย์วิจัยหม่อนไหมเฉลิมพระเกียรติ ฯ มีสรรพคุณทางยาสูง และอุดมด้วยแร่ธาตุต่าง ๆ สร้างรายได้งดงามโดย ลุงจารึก สุวรรณอักโข อายุ 66 ปี เกษตรกร พื้นที่ ม.7 ต.ทุ่งนารี อ.ป่าบอน จ.พัทลุง นำต้นหม่อนสดหรือต้นมัลเบอร์รี พันธุ์เชียงใหม่ 60 ซึ่งได้รับการสนับสนุนต้นพันธุ์ 300 ต้น จากศูนย์หม่อนไหมเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินีนาถ จ.นราธิวาส เมื่อปี 2557 มาปลูกเป็นแห่งแรกในจังหวัดพัทลุง บนเนื้อที่ประมาณ 2 ไร่ ใช้เวลาปลูกเพียง 6 เดือน สามารถให้ผลผลิตจนถึงปัจจุบัน


ลุงจารึก เล่าว่า ต้นมัลเบอร์รีจะออกดอกและมีลูกสีเขียวอ่อน ก่อนจะค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นสีส้ม สีแดง และสีม่วง - แดง ภายในเวลา 2 เดือน ก็สามารถเก็บผลผลิตรับประทานผลสด ซึ่งลูกหม่อนสดหรือลูกมัลเบอร์รีจะมีรสชาติหวาน มีสรรพคุณทางยาสูง มีวิตามินซี และอุดมด้วยแร่ธาตุต่าง ๆ หลายชนิด เหมาะสำหรับปลูกทั้งในที่โล่งแจ้งและในกระถางริมรั้วบ้าน ประหยัดเนื้อที่ โตเร็ว และสามารถปลูกเป็นไม้ประดับที่มีคุณประโยชน์สูง รับประทานได้ทุกเพศทุกวัย ผลผลิตมัลเบอร์รีที่เก็บวันเว้นวัน ส่งขายราคากิโลกรัมละ 150-200 บาท วันหนึ่งสามารถเก็บได้ไม่ต่ำกว่า 20-30 กิโลกรัม โดยตลาดส่วนใหญ่จะส่งขายในพื้นที่ แต่ละเดือน สามารถสร้างรายได้เสริมเลี้ยงครอบครัวได้เป็นอย่าง


http://money.sanook.com/396761/

Read More...

มนุษย์ลูกจ้างต้องรู้! เมื่อถูกเลิกจ้าง มีสิทธิรับเงินชดเชยจากนายจ้างอย่างไร?













มาตรวจสอบสิทธิ ของมนุษย์ลูกจ้าง เมื่อถูกเลิกจ้าง มีพ.ร.บ.คุ้มครองแรงงานกำหนดให้นายจ้างจ่ายเงินชดเชยเพื่อเป็นทุนไปประกอบอาชีพหรือเริ่มต้นชีวิตใหม่ด้วยรู้ยัง


ข่าวการเลิกจ้างพนักงานของบริษัทขนาดใหญ่แม้มีไม่บ่อย แต่ก็มีให้เห็นอยู่ จะด้วยเหตุผลเพื่อการลดต้นทุนของผู้ประกอบการ ย้ายฐานการผลิตไปประเทศอื่น หรือเปลี่ยนเทคโนโลยีการผลิต จากผลประกอบการไม่ดี หรือแม้กระทั้ง การเลิกจ้างบางคน บางแผนกก็ตาม ผู้ที่ต้องประสบปัญหาก็คือ พนักงานหรือลูกจ้าง ที่ต้องเดินหน้าหาทางออก หางานใหม่เพื่อความมั่นคงของชีวิตต่อไป


ทั้งนี้ในกรณี บริษัทเลิกจ้าง ให้ออกจากงาน พนักงานหรือลูกจ้างมีสิทธิตามที่กฎหมายแรงงานให้ความคุ้มครองอยู่ คือ นายจ้างต้องจ่าย เงินชดเชย ให้กับลูกจ้าง เพื่อเป็นทุนรอนในการใช้ชีวิตใหม่ในวันข้างหน้า


วันนี้ เรานำ สิทธิตามกฎหมายแรงงาน เกี่ยวกับเงินชดเชยกรณีการเลิกจ้างหรือให้ออกจากงาน มาฝากกัน มาดูกันว่ามีเงื่อนไขอะไร และ แต่ละคนจะได้รับเงินชดเชยตามกฎหมายอย่างไรบ้างมาฝากกันครับ

ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 หาก ลูกจ้าง ถูกให้ออกจากงานโดยมิได้กระทำความผิด อย่างเช่น

๐ทุจริตต่อนายจ้าง หรือทำความผิดอาญา
๐จงใจทำให้นายจ้างได้รับความเสียหาย
๐ทำการประมาทเลินเล่อจนทำให้นายจ้างได้รับความเสียหายอย่างร้ายแรง
๐ฝ่าฝืนระเบียบการทำงาน โดยที่นายจ้างได้ออกหนังสือเตือนไปแล้ว
๐ละทิ้งการทำงานติดต่อกัน 3 วัน โดยไม่มีเหตุอันควร
๐ได้รับความผิดถึงขั้นจำคุก ยกเว้นกรณีไม่ร้ายแรง

และ ไม่ได้ลาออกเองโดยสมัครใจ และ ทำงานกับนายจ้างมาเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 120 วัน นายจ้างต้องจ่ายค่าชดเชยให้กับลูกจ้างด้วย

และหลักเกณฑ์การจ่ายชดเชยจะเป็นไปตามอายุการทำงานดังนี้คือ

1. ลูกจ้างที่มีอายุงานครบ 120 วัน แต่ไม่ครบ 1 ปี จ่ายไม่น้อยกว่าค่าจ้าง 30 วัน
2. ลูกจ้างที่มีอายุงานครบ 1 ปี แต่ไม่ครบ 3 ปี จ่ายไม่น้อยกว่าค่าจ้าง 90 วัน
3. ลูกจ้างที่มีอายุงานครบ 3 ปี แต่ไม่ครบ 6 ปี จ่ายไม่น้อยกว่าค่าจ้าง 180 วัน
4. ลูกจ้างที่มีอายุงานครบ 6 ปี แต่ไม่ครบ 10 ปี จ่ายไม่น้อยกว่าค่าจ้าง 240 วัน
5. ลูกจ้างที่มีอายุงานครบ 10ปี ขึ้นไป จ่ายไม่น้อยกว่าค่าจ้าง 300 วัน

สิ่งเหล่านี้เป็นสิทธิของลูกจ้างที่ได้รับการคุ้มครองตามกฎหมาย ซึ่งบรรดาลูกจ้างควรศึกษาเป็นความรู้ไว้นะครับ สรุป หาก ลูกจ้างไม่ได้ลาออกเอง และ ไม่ได้กระทำความผิดตามเงื่อนไขข้างตน ทำงานมาครบ 120 วัน เมื่อถูกเลิกจ้าง จะได้รับค่าชดเชย ตามอายุงานดังที่ยกมาข้างตนครับ

อ่านรายละเอียดเกี่ยวกับสิทธิของลูกจ้างกรณีเลิกจ้างได้ที่ e-labour

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

 ลูกจ้างรู้ยัง ! ตกงานจาก เลิกจ้าง ลาออก มีสิทธิได้เงินชดเชยจาก สปส.ด้วย

http://money.sanook.com/397657/


Read More...

ร้องไห้หนัก!! "พิมพ์ ซาซ่า" โพสต์สิ่งนี้เผชิญความตาย อ่านแล้วน้ำตาไหล สงสารเธอจับใจ !??













 หลังจากที่  "พิมพ์"พิมพ์มาดา บริรักษ์ศุภกร อดีตนักร้องสาวหนึ่งในสมาชิกวงซาซ่า นักแสดงและผู้จัดละคร วัย 35 ปี  เปิดใจว่าป่วยมะเร็งรังไข่ระยะแรก ทำคีโมแล้ว 5 ครั้ง จนผมเริ่มร่วง บอกด้วยว่า ช่วงทราบเรื่องใหม่ๆ ทำอะไรไม่ถูก เพราะตั้งตัวไม่ทัน ทั้งหมอ ครอบครัว และคนรอบข้างต้องคอยให้กำลังใจ จนวันนี้มั่นใจว่ามีโอกาสหายถึง 90 เปอร์เซ็นต์

http://www.siamupdate.com/news-181376

Read More...

หาไม่ได้แล้ว !! หลังจากเผา ครูอิ๋ว ไม่นาน ล่าสุดแฟนหนุ่มออกมาสาบานแบบนี้ ทำเอาน้ำตาไหลตามๆกัน !??












จากเหตุการณ์สะเทือนขวัญทั้งประเทศ กรณีฆ่าปาดคอครู ครูอิ๋ว จบไปเเล้วนั้นก็ได้มีสิ่งที่ทำให้คนต้องชะงัก เมื่อเเฟนสาวของเธอ ร.ต.ต.ธเนตร ได้กล่าวว่า “การสูญเสียครูอิ๋วทำใจยากที่จะลืม จะตั้งใจดูแลครอบครัวแทนครูอิ๋ว และที่สำคัญจะมุ่งมั่นทำความดี และทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้ครูอิ๋วอย่างสม่ำเสมอ หากชาติหน้ามีจริงจะเป็นคู่ชีวิตกับครูอิ๋วเพียงคนเดียว”







http://www.siamupdate.com/news-183668

Read More...

หลังทะเลาะกันเล่นๆ อิม กับ ต้นหอม ล่าสุดต้นหอมออกมาโพสต์แบบนี้ เอ๊ะยังไง !???

















หลังประกาศศึกแย่งพระเอกหนุ่ม แถมท้าตบกันลั่นโซเชี่ยลแล้ว ล่าสุด ก็มาถึงจุดนั้นจนได้ เมื่อดีเจต้นหอม-ศกุนตลา โพสต์ไอจีขณะปะหน้าเพื่อนสาว เฟี้ยวฟ้าว สุดสวิงริงโก้ หรือ อิม-อชิตะ พร้อมแคปชั่นว่า

 “ดูไว้นะลูกกว่าแม่จะได้พ่อมาต้องผ่านอะไรมาบ้าง @feawfoaw @sun_prachakorn #จัดทำขึ้นเพื่อความบันเทิง”



 ขณะที่ สาวเฟี้ยวฟ้าว ก็ไม่ยอมกันเลยทีเดียว โดยโพสต์ภาพใบหน้ามีร่องรอยบาดแผล พร้อมข้อความว่า “ตอนแรกก็กะจะไม่ไร แต่พึ่งเห็น..เตรียมทนายไว้เลยนะdjหอม จะเอาจะอี้ก่อด้าย!!!” ก่อนจะโพสต์ไอจีคลิปเดียวกันกับสาวต้นหอม พร้อมข้อความว่า

 “@djtonhorm @foawfeaw รักมาก เจ็บมาก.. 555อยากจบแบบนี้ใช่ไหม..ด้าย...สู้สุดใจเพื่อคนที่รัก5555 ดูละกันว่าเค้าจะเลือกใคร!!!!!! เพื่อนกันท้างนั้น555กรูเลือกเมิงดีฟ่า มันส์กว่าเยอะ เยิฟอาหอม”



 โดยล่าสุด สาวต้นหอม ก็โพสต์ภาพสวีตกับพระเอกหนุ่ม พร้อมข้อความบาดใจสาวเฟี้ยวฟ้าวด้วยว่า

 “มึงผ่อเอาเต๊อะอิม จังหวะการงุ้มมือของปู้ชายมีการประสานอย่างกลมเกลียวแนบแน่น ปู้ชายมีความไข้ได้ในตั๋วเปิ้ล สูต้องตั๋ดใจ๋ฮู้ก่อ #สุมาเต๊อะ คนเขาฮักกั๋นมึงจะมาแทรกกลางยะหยัง #ภาพจาก ซุปตาร์ปาร์ตี้ #ชิงลงรูปก่อนเพราะพุ่งนี้อิเฟี้ยวฟ้าวจัดกุยับแน่5555 @sun_tonhorm @suntonhorm” สร้างความฮากับแฟนคลับเลยทีเดียว

http://www.siamupdate.com/news-183667

Read More...

แจกฟรีสูตรน้ำจิ้มซีฟู้ด สูตรนี้ใส่ผักชีและน้ำตาลปี๊บ ทำกินก็อร่อย ทำขายก็โอเค





















อาหารทะเลมื้อไหน ๆ ก็ต้องมีน้ำจิ้มซีฟู้ดรสเด็ด สูตรนี้ใช้ความหวานละมุนจากน้ำตาลปี๊บ และใส่เกลือแทนน้ำปลา ปรุงออกมาครบรส ทั้งเผ็ด เค็ม เปรี้ยว และหวาน เวลาจิ้มกับกุ้งเผาจะได้ลิ้มรสผักชีหอม ๆ อีกด้วย

 ส่วนผสม

           น้ำตาลปี๊บ 500 กรัม

           เกลือ 2 ช้อนโต๊ะ

           น้ำร้อน 3 1/2 ถ้วย

           น้ำมะนาว 4 ถ้วย

           พริกขี้หนู 200 กรัม

           กระเทียมไทย 200 กรัม

           ผักชี 200 กรัม

 วิธีทำ

           1. ใส่น้ำตาลปี๊บลงในอ่างผสม ตามด้วยเกลือและน้ำร้อน คนให้เข้ากันจนให้น้ำตาลปี๊บละลายเป็นน้ำ จากนั้นเติมน้ำมะนาวลงไปคนให้เข้ากัน

           2. เทส่วนผสมน้ำที่ผสมไว้ลงในเครื่องปั่น ตามด้วยพริกขี้หนู กระเทียม และผักชี ปั่นให้เข้ากันตามความละเอียดที่ต้องการ ตักใส่ขวดโหลแก้ว หรือภาชนะที่มีฝาปิดมิดชิด





http://www.today thainews.com/news4704.html


Read More...

ใครป่วยมาทางนี้ !! แค่ยำผักกะสัง ช่วยรักษา ข้ออักเสบ และเก๊าท์ได้ (ลองแล้ว หายจริง)

ไม่อยากเชื่อ วันนี้ทาง สยามอัพเดท มีเกร็ดความรู้ดีๆมากฝาก เป็นบทความเกี่ยวกับ ผักกะสัง ซึ่งผลทางวิทยศาสตร์สามารถต้านมะเร็งชนิดหนึ่ง เนื่องจากมีการศึกษาวิจัยในปัจจุบันพบว่า ผักกะสังมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระและมีวิตามินซีสูง เรียกได้ว่าวิตามินซีน้องๆ มะนาว คือมะนาว ๑๐๐ กรัม มีวิตามินซี ๒๐ มิลลิกรัม ส่วนผักกะสังมีอยู่ ๑๘ มิลลิกรัม รวมทั้งทางสถาบันวิจัยโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล ได้เคยวิเคราะห์หาธาตุอาหารในพืชผักต่างๆ พบว่าผักกะสัง ๑ ขีด หรือ ๑๐๐ กรัม มีเบต้าแคโรทีน ราว ๒๘๕ ไมโครกรัมเทียบหน่วยเรตินัล การที่ผักกะสังมีธาตุอาหารต้านมะเร็งอยู่สูงขนาดนี้ ผักกะสังจึงจัดว่าเป็นผักต้านมะเร็งชนิดหนึ่ง

“ยำผักกะสัง” โด่งดังขึ้นจากการที่หมู่บ้านดงบังต้องการให้คนเข้าไปชมวิถีการผลิตระบบเกษตรอินทรีย์ จึงได้พัฒนาตนเองเพื่อเป็นหมู่บ้านท่องเที่ยว ได้มีการค้นหาเอกลักษณ์ของหมู่บ้าน สิ่งที่พวกเขาเชี่ยวชาญนอกจากการปลูกต้นไม้แล้ว แม่บ้านของชุมชนนี้ทำอาหารอร่อยมาก เช่น แกงบอน แกงปลาดุกใส่ไพลดำ ยำผักกะสังและตำรับอาหารอื่นๆ อีกมากมาย แต่เมื่อเปิดตลาดออกไปอาหารที่ได้รับความนิยมสูงสุดคือยำผักกะสัง มีสื่อมวลชนมากมายไปชิมและนำสูตรมาเผยแพร่ ปัจจุบันสูตร “ยำผักกะสัง” ของหมู่บ้านดงบังเป็นที่รู้จักกันดี ไม่มีการจดสิทธิบัตร ใครจะเชื่อว่าผักกระสังเป็นพืชพื้นเมืองของทวีปอเมริกาใต้ แต่ได้นำมาปลูกในประเทศที่มีอากาศร้อนทั่วๆ ไปรวมทั้งประเทศไทย แต่เราลืมมันไปจากกลไกผักตลาดที่ผลิตแบบเคมี ต้องขอบคุณชาวบ้านดงบังที่ทำให้ผักกระสัง กลับมาสู่สังคม

ผักกะสัง…รักษาโรคลักปิดลักเปิด
ในตำรายาไทยระบุไว้ว่าใบของผักกะสังใช้ในการรักษาโรคลักปิดลักเปิด ซึ่งพอจะอธิบายได้ว่า ในผักกะสังมีวิตามินซีและสารอาหารสูง ซึ่งการรักษานั้นใช้ทั้งการกินและการบดต้นแปะบริเวณที่เลือดออกตามไรฟัน

ผักกะสัง…รักษา เริม ฝี มะเร็งเต้านม
หมอยาพื้นบ้านของไทยใช้ผักกะสังเป็นยาไม่มากนักส่วนใหญ่ใช้พอกฝีและสิวโดยใช้ต้นสดตำพอกฝี หรือใช้น้ำคั้นทาสิว ในต่างประเทศ เช่น ฟิลิปปินส์ใช้ทั้งต้นสดบดประคบฝี หรือตุ่มหนอง และโรคผิวหนังอื่นๆ เช่นกัน ซึ่งจากการศึกษาสมัยใหม่พบว่าผักกระสังมีฤทธิ์ต้านการอักเสบและต้านแบคทีเรียหลายชนิด ทั้งยังมีฤทธิ์เป็นกรดอ่อนๆ ซึ่งจะช่วยกำจัดเนื้อตายทำให้ฝีแตกได้ง่าย และสิวยุบเร็วขึ้น

“ผักกะสังรักษาเริมและมะเร็งเต้านม” ความรู้นี้ไม่ค่อยแพร่หลายนักแต่แมะ (มือลอ มะแซ) ที่บ้านกำปงบือแน ตำบลจะกว๊ะ อำเภอรามัน จังหวัดยะลาบอกว่า ผักกะสังเป็นยารักษาเริม มะเร็งเต้านม และฝี ในการรักษาเริมนั้นจะนำต้นผักกะสังผสมกับขมิ้นและข้าวสาร (ฮูยงงูกุมาตอกูยิ) ตำให้ละเอียดแล้วพอกทิ้งไว้ ๑ คืน และนำใบมาตำขยำแปะทาเม็ดที่เป็นใต้ราวนม แก้มะเร็งเต้านม ข้อมูลที่ว่าผักกะสังใช้รักษามะเร็งนี้ไม่เคยรู้มาก่อนเลยและเป็นที่น่าทึ่งตรงที่ว่ามีรายงานการศึกษาพบว่า สารในผักกะสังมีฤทธิ์ต้านมะเร็งด้วย นอกเหนือไปจากการแก้อักเสบและแก้ปวด

ผักกะสัง…แก้อักเสบ ข้ออักเสบ เก๊าท์
หมอยาพื้นบ้านบางคนบอกว่ากินผักกะสังแก้ปวดข้อ ซึ่งในประเทศฟิลิปปินส์มีการกินผักกะสังสดๆ หรือนำมาต้มกิน เพื่อรักษาโรคเก๊าท์และข้ออักเสบ โดยนำผักกะสังต้นยาวสัก ๒๐ เซนติเมตร ต้มกับน้ำ ๒ แก้ว ให้เหลือประมาณ ๑ แก้ว แบ่งรับประทานครั้งละ ครึ่งแก้ว เช้า-เย็น ปัจจุบันผักกะสังเป็นสมุนไพรตัวหนึ่งที่ฟิลิปปินส์กำลังศึกษาวิจัยเพื่อใช้เป็นยารักษาโรคข้ออักเสบรวมทั้งโรคเก๊าท์จากการที่ผักกระสังสามารถลดปริมาณกรดยูริคในกระแสเลือด

ผักกะสัง…บำรุงผิว บำรุงผม
ผักกะสังยังเป็นสมุนไพรสำหรับผู้หญิงอีกชนิดหนึ่งนอกจากใช้รักษาสิวแล้ว สาวๆ สมัยก่อนยังใช้น้ำต้มผักกะสังล้างหน้าบ่อยๆ จะทำให้ผิวหน้าสดใส และนอกจากนี้ คุณสารีป๊ะ อาแวกือจิ ที่บ้านกำปงบือแน ตำบลจะกวั๊ะ อำเภอรามัน จังหวัดยะลา บอกว่าผักกะสังเป็นยาสระผมทำให้ผมนุ่มโดยนำใบขยำกับน้ำชโลมศีรษะให้ศีรษะเย็น ป้องกันผมร่วง ทำให้ผมนุ่ม ซึ่งอธิบายได้ว่าผักกะสังมีธาตุอาหาร มีความเป็นกรดอ่อนๆ มีฤทธิ์ต้านการอักเสบ ต้านอนุมูลอิสระ ต้านเชื้อราและแบคทีเรีย

ข้อควรระวัง
ในผู้ที่แพ้พืชที่มีกลิ่นฉุนประเภท mustard (พืชที่เป็นเครื่องเทศทั้งหลาย) ไม่ควรรับประทาน



สูตรยำผักกะสัง
ยำผักกะสัง ทำได้ง่ายๆ หั่นผักชิ้นพอประมาณ ๑-๒ ทัพพี น้ำมะนาว ๑-๒ ช้อนโต๊ะ กุ้งแห้ง ๑-๒ ช้อนโต๊ะ พริกขี้หนูแห้งทอดพอประมาณ มะม่วงซอย ๑-๒ ช้อนโต๊ะ หัวหอมซอยพอประมาณ แครอทซอยฝอยๆ ๑-๒ ช้อนโต๊ะ ถั่วลิสงคั่วพอประมาณ ขิงซอย ๑-๒ ช้อนโต๊ะ หมูหยอง พอประมาณ โหระพา สะระแหน่ ไว้แต่งรส น้ำปลา ๑-๒ ช้อนโต๊ะ น้ำตาลทราย ๑-๒ ช้อนโต๊ะ จากนั้นรวมเครื่องปรุงทุกอย่างเข้าด้วยกัน ปรุงรสตามใจชอบ พร้อมตักเสิร์ฟได้เลย

ในยุคน้ำมันแพง แต่ไม่แล้งปัญญา หากเข้าใจธรรมชาติ นำผักกะสังที่ขึ้นได้ทั่วไป และมีสรรพคุณทางยามากมาย นำมาเป็นอาหารสุขภาพรสเด็ด ประหยัดทั้งเงิน ยังเสริมสร้างสุขภาพอีกด้วย

ผักกะสังเป็นสมุนไพรที่มีประวัติการใช้เป็นยามากมาย ในโบลิเวียมีบันทึกที่มีอายุนับพันปีชื่อ Altenos Indians document กล่าวไว้ว่า ผักกะสังทั้งต้นบดผสมน้ำใช้กินเพื่อห้ามเลือด ใช้ส่วนรากต้มกินรักษาไข้ ใช้ส่วนเหนือดินโปะแผล นอกจากนี้ ในประเทศอื่นๆ ที่มีผักกะสังขึ้นอยู่จะใช้ผักกะสังในการรักษาอาการปวดท้องทั้งแบบธรรมดาและปวดเกร็ง ฝี สิว แผลไฟไหม้น้ำร้อนลวก อ่อนเพลีย ปวดหัว ระบบประสาทแปรปรวน หัด อีสุกอีใส มีแก๊สในกระเพาะ ปวดข้อรูมาติก และยังมีการใช้เฉพาะบางท้องถิ่นเช่น ในบราซิลใช้ในการลดคอเลสเตอรอล ในกียานา (Guyana) ใช้ในการขับปัสสาวะ ลดไข่ขาวในปัสสาวะ ในแถบอเมซอนใช้ขับปัสสาวะ หล่อลื่น หัวใจเต้นผิดปกติ ส่วนในมาเลเซียเชื่อว่าการรับประทานผักกะสังจะช่วยรักษาโรคตาและต้อ (glaucoma) ปัจจุบันมีสารสกัดจากผักกะสังจำหน่ายในต่างประเทศ  ทาง siamupdate หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์แก่ผู้อ่านนะคะ







http://www.siDSAAcom/news-177293




Read More...

เพียงทำแบบนี้ แล้วปัญหาท้องผูก ท้องอืด ท้องเฟ้อ จะหายไปใน 1 นาที

















เพียงทำแบบนี้ แล้วปัญหาท้องผูก ท้องอืด ท้องเฟ้อ จะหายไปใน 1 นาที


คนในประเทศจีนส่วนใหญ่จะใช้การกดจุดและการฝังเข็มที่มีมาเป็นร้อยปี ที่มีผลทำให้เรารู้สึกผ่อนคลายและการใช้ยาจากธรรมชาติบรรเทาอาการท้องผูก ท้องอืด ท้องเฟ้อ ได้เพียงใช้เวลาไม่ถึง 1 นาที


เริ่มต้นด้วยการใช้ 2 นิ้ว กดไปที่สะดือ เพื่อทำให้เกิดการไหลเวียนของโลหิต ซึ่งส่งผลต่อการขจัดอาการปวดในช่องท้องและพื้นที่ส่วนหลัง และยังช่วยบรรเทาอาการท้องผูก ท้องเฟ้อ รวมทั้งแก้ปัญหาระบบทางเดินอาหารได้ดีอีกด้วย

ใช้นิ้วมือของคุณกดลงไปยังจุดที่ต้องการโดยใช้เวลาประมาณ 1 นาที และทำการหายใจเข้าออกลึกๆ

หนึ่งในสิ่งที่ยอดเยี่ยมจากการทำสิ่งนี้ก็คือ มันจะเห็นผลทันทีในทางบวกกับอาการปวดต่างๆในระบบย่อยอาหาร และจะทำให้ผ่อนคลายเพียงไม่กี่นาที คุณอาจจะต้องลองนำเทคนิคนี้ไปใช้เพื่อขจัดอาการปวดดังกล่าวได้อย่างแน่นอน





http://www.ssas.com/2016/07/1_26.html












Read More...

16 สัญญาณมะเร็งร้าย ที่ผู้หญิงมักจะละเลยจนเกือบสายเกินแก้










  โรคมะเร็ง หากตรวจเจอได้ในระยะต้น ๆ โอกาสในการรักษาก็จะมีมากขึ้น แต่ที่ร้ายก็คือสาว ๆ ส่วนใหญ่ มักจะไม่ทันสังเกตว่าตัวเองมีสัญญาณเตือนโรคมะเร็งร้ายอยู่กับตัว

          มะเร็งปากมดลูก มะเร็งเต้านม หรือมะเร็งรังไข่ โรคในตระกูลมะเร็งทั้งหมดนี้เป็นความเสี่ยงที่ผู้หญิงคนไหนก็คงไม่อยากพบเจอ แต่ทั้ง ๆ ที่ไม่มีใครอยากเจ็บป่วยด้วยโรคมะเร็งร้าย ทว่ารู้ตัวไหมคะว่าสาว ๆ เองก็มักจะลืมใส่ใจสุขภาพ เผลอละเลย 16 สัญญาณโรคมะเร็งต่อไปนี้กันอยู่ตลอด


มะเร็ง

1. เต้านมมีความผิดปกติ

          ความผิดปกติที่ว่าก็มีตั้งแต่คลำเจอก้อนที่เต้านม แต่ประเด็นสำคัญคือไม่จำเป็นต้องรอให้ก้อนในเต้านมคลำแล้วรู้สึกเจ็บ แต่เมื่อใดที่คลำเจอก้อนเนื้อในเต้านมก็ควรไปพบแพทย์โดยทันที 

          อีกทั้งยังควรสำรวจว่าเต้านมมีรอยบุ๋มหรือรอยยุบหรือไม่ สีของเต้านมไม่สม่ำเสมอกันหรือเปล่า หรือหัวนมบวม สีของหัวนมเป็นสีชมพูจัด สีแดงเข้ม หรือกดที่หัวนมแล้วรู้สึกเจ็บมาก หากมีอาการดังกล่าวก็ควรต้องสงสัยว่าเป็นสัญญาณโรคมะเร็งเต้านมไว้ก่อน 

มะเร็ง

2. ปวดหัวอย่างรุนแรง

          ถ้ามีอาการปวดหัวอย่างรุนแรง โดยไม่เคยปวดหัวหนัก ๆ แบบนี้มาก่อน หลายคนอาจคิดว่าโดนไมเกรนเล่นงานเข้าซะแล้ว หรืออาจคิดไปว่าตัวเองเป็นไข้ แต่อีกสิ่งหนึ่งที่อยากให้คิดไว้ด้วยก็คือ อาการปวดหัวรุนแรง และปวดอย่างต่อเนื่อง อาจเป็นสัญญาณเสี่ยงโรคเนื้องอกหรือมะเร็งสมองได้

3. ท้องอืด

          ที่หลายคนไม่เอะใจในอาการนี้ก็เพราะว่าเรามักจะท้องอืดอยู่บ่อย ๆ โดยเฉพาะในช่วงมีประจำเดือน ทว่าหากหลังจากผ่านพ้นช่วงประจำเดือนมาแล้ว แต่คุณยังมีอาการท้องอืดอยู่ก็ควรต้องระวังให้ดีเลยค่ะ สัญญาณนี้อาจกำลังบอกว่าคุณเป็นมะเร็งรังไข่หรือมะเร็งปากมดลูกในระยะเริ่มต้นอยู่ก็ได้นะ

 มะเร็ง

4. ปวดประจำเดือนหนักมาก

          ทุกอาการผิดปกติของประจำเดือนเป็นสิ่งที่สาว ๆ ก็ไม่ควรละเลยเช่นกัน โดยเฉพาะคนที่ปวดประจำเดือนหนัก ๆ ชนิดที่ลุกไปทำอะไรไม่ไหว หรือคนที่มีเลือดประจำเดือนมากผิดปกติ ติดต่อกันหลายเดือน เคสเหล่านี้มีความเสี่ยงของโรคมะเร็งปากมดลูก มะเร็งรังไข่ และมะเร็งช่องคลอดเลยทีเดียว

มะเร็ง

5. ไอไม่หายสักที

          ผู้หญิงหลายคนไม่เคยคาดคิดว่าเราจะเสี่ยงโรคมะเร็งปอดได้ เนื่องจากไม่ใช่คนที่มีพฤติกรรมสูบบุหรี่ และนี่ก็คือเหตุผลที่ทำให้หลายคนไม่เคยเอะใจกับอาการไอจริงไอจังของตัวเองมาก่อนเลย ทั้งที่จริงแล้วทั้งมลพิษ ฝุ่นควันตามท้องถนน หรือการสูดดมควันบุหรี่จากคนรอบข้าง ก็เป็นปัจจัยสำคัญที่อาจทำให้เราเสี่ยงต่อโรคมะเร็งปอดได้ 

          ฉะนั้นสาว ๆ คนไหนมีอาการไอต่อเนื่อง ไออยู่เรื่อย ๆ ไม่หายสักที พร้อมกับเจ็บหน้าอกในขณะที่ไอด้วย ก็อยากให้ลองไปเช็กสุขภาพกันบ้างเพื่อความสบายใจนะคะ

6. ปวดท้องอย่างรุนแรงหรือมีอาการอาเจียนบ่อย ๆ

          สมาคมโรคมะเร็งในประเทศสหรัฐอเมริกาได้เปิดเผยว่า อาการปวดท้องก็เป็นสัญญาณหนึ่งที่บ่งบอกถึงการแพร่กระจายของเซลล์มะเร็ง เช่น การแพร่กระจายเซลล์มะเร็งที่รังไข่ หรือมะเร็งกระดูก ยิ่งคนที่มีอาการปวดท้องเรื้อรัง หรืออาเจียนบ่อยจนผิดปกติ ก็อย่าละเลยสัญญาณสุขภาพเหล่านี้เด็ดขาด

7. ป่วยบ่อย

          สาว ๆ คนไหนที่ค่อนข้างมั่นใจว่าเราแข็งแรง แต่กลับมีอาการป่วยไข้ออด ๆ แอด ๆ โดยเฉพาะเป็นไข้ตัวร้อน หรือมีอาการอักเสบภายในเป็นประจำ ควรระวังว่าอาการเหล่านี้อาจเป็นสัญญาณของโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวเอาได้

มะเร็ง

8. น้ำหนักลดลงฮวบฮาบ

          หากจู่ ๆ ก็น้ำหนักก็ลดลงเกินกว่า 5 กิโลกรัม ก็อย่าเพิ่งเริงร่ากันนะคะสาว ๆ เพราะอาการน้ำหนักลดลงอย่างผิดปกติเช่นนี้สามารถบ่งชี้ความเสี่ยงของโรคมะเร็งได้หลายชนิด ไม่ว่าจะเป็นมะเร็งกระเพาะอาหาร มะเร็งปอด มะเร็งตับอ่อน หรือมะเร็งในหลอดอาหารเลยทีเดียว และอย่าเข้าใจไปเองว่าที่น้ำหนักลงเพราะเราเครียด หรือนอนไม่พอ โดยเฉพาะคนที่กินอาหารในปริมาณเท่าเดิม ใช้ชีวิตแบบเดิม ๆ แต่น้ำหนักกลับลดลงเร็วเว่อร์อย่างนี้ บอกเลยว่าเป็นสัญญาณที่ไม่ดีอย่างที่คิด

9. เลือดออกหลังวัยหมดระดู (Postmenopausal bleeding)

          ภาวะเลือดออกหลังวัยหมดระดูเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้ามเป็นอย่างมาก และอย่ามองว่าเป็นความผิดปกติของฮอร์โมนที่แปรปรวนเท่านั้น เพราะนี่อาจหมายถึงสัญญาณเบื้องต้นของมะเร็งปากมดลูกก็ได้

          ดังนั้นหากพบว่ามีเลือดออกในช่วงที่หมดประจำเดือนไปแล้ว ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อตรวจเช็กอาการโดยทันทีนะคะ เพราะมีรายงานจาก American Cancer Society ที่บอกว่า หากตรวจพบอาการมะเร็งในระยะที่ 1 ได้ทัน และเซลล์มะเร็งยังไม่แพร่กระจายไปตามส่วนต่าง ๆ โอกาสหายจากมะเร็งก็มีสูงถึง 88% เลยทีเดียวค่ะ

มะเร็ง

10. ไฝบนผิวหนังเปลี่ยนไป

          สำหรับสาว ๆ ที่มีไฝอยู่บนผิวหนัง ก็อยากให้สังเกตไฝของคุณสักหน่อยว่ามีลักษณะแปลกไปจากเดิมหรือเปล่า เช่น เม็ดไฝมีขนาดใหญ่ขึ้น สีเข้มขึ้น ซึ่งอาจเป็นสัญญาณเตือนของโรคมะเร็งผิวหนังได้เช่นกัน แต่ถ้าอยากให้ชัวร์ก็ควรไปตรวจกับแพทย์โดยตรงนะคะ

11. เจ็บคอเรื้อรัง

          อาการเจ็บคอเป็นความเจ็บป่วยเบสิกที่ทำให้หลายคนไม่คิดจะใส่ใจ บ้างก็คิดว่าเป็นหวัด หรือมีอาการอักเสบธรรมดา แต่เพราะละเลยแบบนี้นี่แหละค่ะจึงทำให้ไม่เคยฉุกคิดว่า อาการเจ็บคอเป็นสัญญาณของโรคมะเร็งได้ โดยอาจบ่งชี้ว่าเป็นมะเร็งลำคอ หรือมะเร็งกล่องเสียง ฉะนั้นหากไม่อยากเสียใจเพราะรู้ไม่ทันโรคมะเร็งเหล่านี้ ก็อย่าละเลยอาการเจ็บคอของตัวเองดีกว่า

มะเร็ง

12. พุงป่อง รู้สึกเหมือนอ้วนขึ้น

          ความอ้วนอาจไม่เข้าใครออกใครก็จริง แต่ถ้าคุณรู้สึกว่าตัวเองก็ไม่ได้รักการกินไปมากกว่าที่เคยเป็น แต่กลับมีพุงป่อง ๆ พร้อมกับน้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้นอย่างไม่รู้ที่มาที่ไป อีกทั้งยังมีอาการท้องอืดอยู่บ่อย ๆ แม้จะไม่ใช่ช่วงที่เป็นประจำเดือนก็ตาม เคสนี้อาจแปลได้ว่าคุณมีสัญญาณของโรคมะเร็งรังไข่อยู่ก็ได้

13. เบื่ออาหาร รู้สึกอิ่มตลอดเวลา

          ใครที่รู้สึกอิ่มอยู่ตลอดเวลา ไม่ค่อยนึกอยากจะกินอาหารสักเท่าไร อย่าเพิ่งดีใจว่านี่เป็นโอกาสในการลดน้ำหนักของเรา แต่ให้สงสัยและไปตรวจเช็กความเสี่ยงโรคมะเร็งรังไข่ด่วนเลย

มะเร็ง

14. หน้าบวม

          เราส่องกระจกกันทุกวัน วันละหลายเวลาจนบางทีก็ลืมสังเกตการบวมของใบหน้ากันไปบ้าง และหากสังเกตเห็นว่าเรามักจะมีอาการหน้าแดงจัด (เหมือนเลือดขึ้นหน้า) หรือแก้มบวม ๆ หน้าบวมผิดปกติ พร้อมด้วยอาการหายใจไม่สะดวก หรือหายใจได้สั้นลง สัญญาณนี้อาจบ่งชี้อาการของโรคมะเร็งปอดในระยะเริ่มต้นได้ เพราะปอดมีเซลล์เนื้องอกมาขัดขวางการไหลเวียนอากาศและเลือด จึงอาจทำให้มีการคั่งของสารคัดหลั่งและเลือดบนใบหน้าเราได้นั่นเอง

15. เล็บเปลี่ยนสี

          นี่ก็เป็นอีกความละเลยที่สาว ๆ หลายคนเผลอทำไปโดยไม่รู้ตัว โดยเฉพาะคนที่ทาเล็บหรือแต่งเล็บเป็นประจำ อาจไม่ทันสังเกตสีเนื้อเล็บของตัวเองว่าผิดปกติไปบ้างหรือเปล่า ฉะนั้นต่อไปนี้พยายามหมั่นสังเกตเล็บตัวเองบ้างนะคะ เพราะหากเล็บมีสีคล้ำขึ้น สีเข้มเกินปกติ อาจบ่งบอกได้ถึงความเสี่ยงโรคมะเร็งผิวหนังได้เลย

มะเร็ง

16. ปวดหลัง

          โดยเฉพาะหลังส่วนล่างด้านขวา อาจเป็นสัญญาณของโรคมะเร็งเต้านม หรือมะเร็งตับได้ ฉะนั้นสาว ๆ ที่มักจะมีอาการปวดหลังส่วนนี้เป็นประจำ ก็ต้องคิดเผื่อด้วยว่าเราอาจจะมีความเสี่ยงโรคร้ายแรงที่มากกว่าแค่อาการออฟฟิศซินโดรมหรือเปล่า

          อย่างไรก็ตาม เราไม่ได้แนะนำให้ทุกคนตื่นตระหนกกันเกินไป ทว่าหากเราจะเพิ่มความใส่ใจต่อร่างกายและสุขภาพตัวเองให้มากขึ้น ก็น่าจะเป็นผลดีกับตัวเรามากกว่า เพราะอย่าลืมว่า โรคร้ายอย่างมะเร็ง หากตรวจพบโรคได้เร็วเท่าไร โอกาสในการรักษาให้หายจากโรคมะเร็งก็ย่อมมีมากขึ้นเท่านั้นนะคะ

ขอขอบคุณข้อมูลจาก 
คณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล
reader’s digest
doctorshangout




http://health you.com/view151806.html

Read More...

ปลาหมึกยัดไส้ ข้าวเหนียว" อร่อยมาก เหนียวหนึบๆ (หากินยาก ต้องภาคใต้เท่านั้น)













มาดูวิธีทำ

1. ต้องเลือกปลาหมึก ไซส์ขนาดกลางน่ะค่ะ (ถ้าขนาดใหญ่เดียวเนื้อมันจะแข็ง)
2. ล้างปลาหมึกให้สะอาด เอาออกทุกอย่าง
3. แช่ข้าวเหนียว (แช่กับกะทิสด) จะได้มันๆ แช่สัก 1 ชม.
4. ใส่ข้าวเหนียวในปลาหมึกใส่ครึ่งตัวปลาหมึกก็พอ (เพราะเวลาต้มข้าวเหนียวเดียวมันจะเต็มแล้วก็แตก)
5. เอาหัวปลาหมึก ให้ติดกับตัวหมึก โดยใช้ไม้จิ้มฟันมาเสียบ
6. ต้มหมึก ใส่ใบเตย ใส่กะทิ แล้วก็น้ำตาลแว่น  เคี่ยวไฟสักพัก  ปิดเตา (ใครชอบเค็มเพิ่มเกลือ ลงได้นะจร้า)
#พร้อมกินได้เลยจร้า 😬😬😬


http://www.startclip.com/news6217.html



Read More...

ไม่อยากเป็นนิ่ว ต้องหลีกเลี่ยงอาหารชนิดใดบ้าง ?











อยากเป็นนิ่ว ต้องหลีกเลี่ยงอาหารชนิดใดบ้าง ?

นิ่ว หรือ โรคนิ่ว (Stone หรือ Calculi หรือ Lithiasis) คือ ก้อนแข็งๆอยู่ภายในอวัยวะต่างๆ เช่น ไต กระเพาะปัสสาวะ และถุงน้ำดี ซึ่งเกิดจากความไม่สมดุลกันระหว่างสารบางชนิด ที่ร่างกายรับเข้ามา และความสามารถในการกำจัดออกจากร่างกาย


ดังนั้นอาหารที่เรารับประทานเข้าไป จะมีส่วนสำคัญมากในการเกิดนิ่ว โดยเฉพาะนิ่วชนิด Calcium Oxalate ฉะนั้นมาดูกันว่า ควรหลีกเลี่ยงอาหารชนิดใดบ้าง...ถ้าไม่อยากเป็นนิ่ว!!
















http://www.take car e com/2016/07/blog-post_53.html



Read More...

"ปูไข่หลนกะทิ" รสเด็ด สูตรอร่อย ครัวลอยฟ้า ดูสูตรกันเลย....


















เครื่องปรุง

 1.ปูไข่เนื้อแน่น 1 ตัว
 2.กระชายหั่นซอย 2 ราก
 3.ตะไคร้หั่นซอย 1 ต้น
 4.ใบมะกรูดหั่นซอย 5 ใบ
 5.หอมแดงหั่นซอย 4 หัว
 6.พริกชี้ฟ้าหั่นตามยาว 3 ดอก
 7.น้ำตาลมะพร้ว 1 ช้อนโต๊ะ
 8.น้ำมะขามเปียก 2 ช้อนโต๊ะ
 9.น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
 10.น้ำกะทิสด 4 ทัพพี

 วิธีทำ

 1.ล้างปูไข่ให้สะอาด ลอกกระดองออกจากตัวปูแล้วหั่นเป็นชิ้นพักไว้
 2.เทกะทิใส่กระทะรอให้น้ำกะทิร้อนจนเดือดจึงใส่กระชาย ตะไคร้ หอมแดง ลงผัด
 3.นำปูไข่ใส่ลงรวนกับน้ำกะทิจนเนื้อและไข่ปูเริ่มสุก
 4.ปรุงรสด้วยน้ำตาลปี๊บ น้ำมะขามเปียก และน้ำปลา ชิมรสให้อร่อยถูกใจ
 5.ใส่ใบมะกรูด พริกชี้ฟ้า ลงรวนจนสุกทั่วจึงตักใส่ชาม
 ปูไข่หลน กินกับผักสดแตงกวา มะเขือเปาะ ผักกะหล่ำ ขมิ้นขาว ถั่วฝักยาว ไข่จากกระดองปูสดๆ กินกับข้าวสวยร้อนๆ
















http://www. news best food 2016com/news5123.html






Read More...

สูตร "น้ำจิ้มลูกชิ้น " รสเด็ด ทำกินอร่อย ทำขายลูกค้าติดใจ เอาสูตรไปเลย>>>






















วัตถุดิบ

1.น้ำตาลมะพร้าว 200 กรัม
2.นำ้ตาลทราย 3 ช้อนโต๊ะ
3.น้ำมะขามเปียกเข้มข้น 1/2 ถ้วยตวง
(เนื้อมะขาม+น้ำร้อน 1/2 ถ้วยตวง แช่เอาไว้ พออุ่นๆบีบคั้น กรองเอาแต่น้ำ)
4.เกลือ 1/2 ช้อนชา
5.พริกแดง 5 เม็ด
6.พริกชี้ฟ้าแดง 1 เม็ด (เอาใส้และเมล็ดออก ซอยให้เล็กลง)
7.กระเทียมดอง 3 หัวเล็ก 
8.น้ำกระเทียมดอง 3 ช้อนโต๊ะ
9.กระเทียมจีน 6 กรีบ
10.แป้งข้าวโพด 1 ช้อนโต๊ะ(ละลายกับน้ำ 2 ช้อนโต๊ะ)
11.พริกคั่วป่น 3 ช้อนโต๊ะ หรือความเผ็ดตามชอบ 
12.รากผักชี 3 ราก
13.ต้นผักชี 1 ต้น 












ขั้นตอนวิธีทำ

1. พริกแดง+พริกชี้ฟ้า+กระเทียม+รากผักชี+หัวกระเทียมดอง+น้ำกระเทียมดอง
นำไปปั่นรวมกันให้ระเอียด พักไว้
2.น้ำ 2 ถ้วยตวง+น้ำตาลทราย+น้ำตาลมะพร้าว+เกลือ
ยกขึ้นตั้งไฟกลางไปทางอ่อน เคี่ยวให้น้ำตาลละลายดี หมั่นคนเป็นระยะ ปรับเป็นไฟอ่อน เคี่ยวให้น้ำซอสข้นขึ้น 
3.ใส่พริกที่ปั่นเอาไว้ คนให้เข้ากัน เคี่ยวไปอีกสักพักให้พริกกระเทียมสุก
(ขั้นตอนนี้ให้ชิมรสดูตามชอบนะคะ ให้มีรสหวาน เปรี้ยว และเค็มตาม ถ้าเปรี้ยวไปให้เติมน้ำตาล ขาดเหลือให้ปรุงรสตามชอบค่ะ)
4.ใส่พริกป่น ความเผ็ดตามชอบนะคะ
5.เมื่อเคี่ยวน้ำจิ้มเข้ากันดีแล้ว ค่อยๆใส่แป้งข้าวโพดละลายน้ำ ความเหนียวหนืดตามชอบ คนให้เข้ากัน (เมื่อน้ำจิ้มเย็นความเหนียวจะเพิ่มขึ้นอีกเล็กน้อย)
6.ปิดไฟ ใส่ต้นผักชีซอย พร้อมเสริฟ 

สูตรการปิ้งลูกชิ้น

1.นำลูกชิ้น ไปลวกในน้ำร้อน ตักขึ้นพักไว้ให้สะเด็ดน้ำ และนำมาเสียบไม้ บั้งให้พอสวยงาม ปิ้งด้วยไฟกลางไปทางอ่อน พร้อมเสริฟ ทานคู่กับน้ำจิ้ม ผักสดตามชอบ 






http://www.good luck news com/news2231.html


Read More...

โง่มาตั้งนาน วิธีละลายเนื้อสัตว์แช่แข็ง ที่จริงมันต้องทำแบบนี้ ง่ายมากๆ ไม่เสียรสชาติ




















โง่มาตั้งนาน วิธีละลายเนื้อสัตว์แช่แข็ง ที่จริงมันต้องทำแบบนี้ ง่ายมากๆ ไม่เสียรสชาติ


สิ่งที่ต้องเตรียม

1. หม้อสแตนเลสมา 2 ใบ
2. เนื้อสัตว์แช่แข็ง 

วิธีการทำ
1. นำหม้อสแตนเลส 1 ใบมาคว่ำ
2. จากนั้นนำชิ้นเนื้อที่ต้องการละลายมาวางไว้บนก้นหม้อที่คว่ำเตรียมไว้ในข้อที่ 1
3. นำก้นหม้อสแตนเลสอีก1ใบวางทับบนชิ้นเนื้อที่ต้องการละลาย
4. ใช้เวลาเพียง 15 นาที เนื้อที่แข็งจนหั่นไม่เข้าก็จะนิ่มจนคุณสามารถนำไปปรุงอาหาร

ปล: หม้อสแตนเลสมีคุณสมบัติในการนำความร้อนและเย็น โดยความเย็นจากเนื้อจะถ่ายไปสู่ก้นหม้อทั้งบนและล่าง ทำให้เนื้อละลายตัวได้เร็วกว่าการนำไปเวฟ และยังไม่ทำให้เสียรสชาติของเนื้ออีกด้วย 

หลังจากที่ได้อ่านกันแล้ว ใครที่กำลังจะละลายเนื้อสัตว์แช่แข็ง แต่กังวลเกี่ยวกับรสชาติของเนื้อที่จะเปลี่ยนไป ในวันนี้ก็คงหมดความกังวลกันแล้ว เพราะวันนี้เราได้นำเสนอเทคนิคง่ายๆในการละลายเนื้อสัตว์แช่แข็ง ซึ่งวิธีการทำก็สุดแสนจะง่ายตามที่ได้กล่าวไว้ด้านบน




http://wwwgoood food.com/2016/06/blog-post_509.html







Read More...

ผ่าหัวหอมครึ่งลูกแล้วทาลงบนหลังมือ… ไม่น่าเชื่อกับผลลัพธ์ที่ได้!

















ผ่าหัวหอมครึ่งลูกแล้วทาลงบนหลังมือ… ไม่น่าเชื่อกับผลลัพธ์ที่ได้!

เพื่อนๆรู้ไหมว่าหัวหอมมีสรรพคุณมากมาย มีสารเควอซิทิน(Quercetin)มีฤทธิ์ต้านการอักเสบและมีสารต้านอนุมูลอิสระ(antioxidant) นอกจากจะช่วยบรรเทาอาการหวัดคัดจมูกแล้วหัวหอมยังสามารถช่วยลดอาการปวดและคันได้ดีด้วย


ช่วยลดการอักเสบของผิวหนังที่มีแผลไหม้ ป้องกันการเกิดแผลเป็น

แผลน้ำร้อนลวกไฟไหม้ชนิดไม่รุนแรง สามารถใช้หัวหอมสดทาลงบนแผลเพื่อบรรเทาอาการปวด ป้องกันการติดเชื้อ และยังช่วยให้แผลหายเร็วขึ้นด้วย

ลดอาการคัน

อาการคันจากแมลงสัตว์กัดต่อย แค่ใช้หัวหอมสดทาลงบนผิว อาการคันจะลดลงอย่างเห็นได้ชัด

ลดอาการคัดจมูก

แค่ปิดตาดมกลิ่นหัวหอมดิบก็จะทำให้จมูกโล่งขึ้น หายใจได้คล่องขึ้นแล้ว (แต่กลิ่นของหัวหอมอาจมีผลทำให้เคืองตาน้ำตาไหลได้)

อาการคัดจมูกจากหวัด

ก่อนนอนให้เตรียมหัวหอมครึ่งลูกวางไว้ข้างหัวนอน รับรองว่าตื่นมาอาการหวัดจะดีขึ้นมาก

อาการไอเจ็บคอ

หั่นหัวหอมเป็นชิ้นเล็กๆแล้วต้มในน้ำ 1-2 ถ้วย แล้วดื่มระหว่างวัน ช่วยทำให้อาการไอลดลง

นอกเหนือจากประโยชน์ที่กล่าวมาข้างต้น หัวหอมยังมีฤทธิ์ช่วยลดความดันโลหิตได้ด้วย นับว่าหัวหอมเป็นอาหารสุขภาพที่แท้จริง ราคาไม่แพงประโยชน์เพียบขนาดนี้ต้องรับประทานกันทุกวันนะคะ !






http://www. health news todaycom/2016/07/blog-post_4.html





Read More...
















แจกสูตรขนมเบื้อง! ทำทานก็ได้ ทำขายก็ดี

   สูตรขนมเบื้อง ขนมไทยวัยเด็กที่อยากลองทำ เล่น เชื่อว่าตอนเด็ก ๆ ต้องมีใครหลายคนที่ใฝ่ฝันอยากลองวน ๆ แซะ ๆ ขนมเบื้องกันบ้างล่ะ วันนี้แอดมินอยากสานฝันให้คนไทยหันมาทำขนมไทยอย่างขนมเบื้องไทยกันดู ถึงแม้สูตรขนมเบื้องชาววังจะมีส่วนผสมที่เยอะแยะไปนิด แต่รับรองว่า ผลที่ออกมาคุ้มค่าราคาคุยแน่นอน วันหยุดว่าง ๆ ก็ชวนลูกหลานญาติพี่น้องมาปาร์ตี้ขนมเบื้องกัน นั่งวน ๆ แซะ ๆ แงะ ๆ จับเข้าปากครีมขาวเปื้อนมือติดนิ้ว อร่อยไม่พอ ยังแฮปปี้ดี๊ด๊ากันทั้งครอบครัวเลยด้วย

ส่วนผสม แป้งขนมเบื้อง

- แป้งข้าวเจ้า 3 ถ้วย
- ถั่วเขียวคั่วป่นละเอียด 1 ถ้วย (หรือแป้งถั่วเขียว)
- น้ำตาลทราย 1/2 ถ้วย
- ไข่ไก่ 2 ฟอง
- น้ำปูนใส 2 ถ้วย (หรือน้ำเปล่า)
- ส่วนผสม ครีมขนมเบื้อง
- ไข่ขาว (ไข่เป็ด) แช่เย็นจัด 2 ฟอง
- น้ำตาลปี๊บ 400 กรัม
- ส่วนผสม ไส้หวาน
- ฝอยทอง 2 ถ้วย
- งาขาวคั่ว (ใส่หรือไม่ใส่ก็ได้) 1/2 ถ้วย
- ส่วนผสม ไส้เค็ม
- รากผักชี 2 ราก
- กระเทียม 5 กลีบ
- พริกไทยป่น 1 ช้อนชา
- มะพร้าวขาวขูด 1 ถ้วย
- เกลือป่น 2 ช้อนชา
- น้ำตาลทราย 4 ช้อนโต๊ะ
- กุ้งสดสับละเอียด 1/2 ถ้วย
- สีผสมอาหารสีส้ม เล็กน้อย
- น้ำมันพืชสำหรับผัด
- อุปกรณ์ที่ควรมี
- เครื่องตีแป้ง
- กระจ่า
- เตาขนมเบื้อง (ถ้าไม่มีใช้กระทะเทฟลอน)

วิธีทำแป้งขนมเบื้อง

1. ผสมแป้งข้าวเจ้า ถั่วเขียวคั่วป่น น้ำตาลทราย และไข่ไก่เข้าด้วยกัน

2. ค่อย ๆ เทน้ำปูนใสลงไปทีละน้อยแล้วสลับกับนวดแป้งไปเรื่อย ๆ จนส่วนผสมแป้งเข้ากันเป็นเนื้อเดียว ประมาณ 10 นาที และน้ำตาลทรายละลายหมด เตรียมไว้

วิธีทำครีมขนมเบื้อง

   ตีไข่ขาวกับน้ำตาลปี๊บด้วยความเร็วสูงสุดจนขึ้นฟูและตั้งยอด ประมาณ 10-15 นาที
หมายเหตุ : ถ้าไม่มีเครื่องตีแป้งให้ใช้ตะกร้อมือแทนได้ แต่ต้องใช้ความเร็วสูง และตีพอส่วนผสมเป็นเนื้อครีมเป็นอันใช้ได้

วิธีทำไส้เค็ม

1. โขลกรากผักชี กระเทียม และพริกไทยเข้าด้วยกันจนละเอียด

2. ใส่น้ำมันลงในกระทะ ใช้ไฟปานกลาง ใส่เครื่องที่โขลกไว้ลงผัดจนหอม

3. ใส่กุ้งและมะพร้าวขูดลงไปผัดจนสุก เติมสีผสมอาหารสีส้มลงไปเล็กน่้อย (พอให้สีสวย) ผัดให้เข้ากัน




http://wwwrrrrrrrrcom/news5641.html

Read More...

แบ่งปัน"คอหมูย่าง" สูตรหมัก" นมคาร์เนชั่น " หมักง่ายๆ แต่อร่อยกว่าที่ร้าน









ส่วนผสม 

คอหมู 1 โล 
ซอสหอยนางรม 4 ช้อนโต๊ะ
ซีอิ๊วขาว 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาล 1 ช้อนโต๊ะ ชอบรสออกหวาน 2 ช้อนโต๊ะ
พริกไทยป่น 1 ชช
นมข้นจืดคาร์เนชั่น 4 ช้อนโต๊ะ
รากผักชี กระเทียม พริกไทยเม็ด ตำพอแหลก 

ปล. สูตรที่ลงเป็นรสชาติที่คนที่บ้านทานกัน ปรับรสชาติกันตามชอบอีกทีตอนผสมส่วนผสมเสร็จ ชิมก่อน ก่อนเอาหมูลงไปหมักค่ะ
ใช้ส้อมทิ่มคอหมูให้ทั่วๆ 
ผสมส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน หมักหมูอย่างน้อย 4 ชม. หมักข้ามคืนยิ่งดีค่ะ (หมักกลางคืนย่างเช้า / หมักเช้าย่างเย็น)
ย่างในเตาถ่านหรือเตาแก๊ส ไฟปานกลาง ไม่งั้นจะไหม้นะค่ะ  ชอบย่างแบบสุก หรือ กึ่งสุกๆ ตามชอบเลยค่ะ





http://www.foood thai land stcom/news5656.html





Read More...

แชร์เลย! ครม. มีมติเพิ่มวันหยุดยาวปี 2559 ช่วงวันเข้าพรรษา 5 วันติด











แชร์เลย! ครม. มีมติเพิ่มวันหยุดยาวปี 2559 ช่วงวันเข้าพรรษา 5 วันติด

มติคณะรัฐมนตรี อนุมัติวันหยุดปี 2559 วันอาสาฬหบูชาและเข้าพรรษา หยุด 16-20 กรกฎาคม 2559


วันอาสาฬหบูชาและเข้าพรรษา

เดิมคือ หยุดเสาร์อาทิตย์ที่ 16-17 กรกฎาคม, วันอาสาฬหบูชา วันอังคารที่ 19 กรกฎาคม และวันเข้าพรรษา วันพุธที่ 20 กรกฎาคม

ทาง ครม. เพิ่มวันหยุดพิเศษ คือ วันจันทร์ที่ 18 กรกฎาคม จึงเป็นหยุดยาว 5 วัน ตั้งแต่วันที่ 16-20 กรกฎาคม






http://www.share me tooi.com/2016/06/2559-5.html





Read More...