ที่มา คอลัมน์ ทอล์ค ออฟ เดอะ ทาวน์ มติชนรายวัน
เผยแพร่ 7 ก.พ. 59
พูดกันมาเนิ่นนาน ไม่รับประทานอาหารเช้า ไม่รับประทานข้าวเช้า จะแย่อย่างนั้น จะแย่อย่างนี้ เช่น เสี่ยงต่อการเกิดโรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ ไขมัน ในเลือด โรคเบาหวาน เป็นต้น
ผมนึกว่าข้อมูลนี้มั่ว แต่ที่ไหนได้มีรายงานหลักฐานทางวิชาการจากประเทศญี่ปุ่นยืนยัน ซึ่งตีพิมพ์ในวารสารหลอดเลือดสมอง (stroke) เมื่อวันที่ 5 มกราคม 2559 รายงานฉบับนี้ระบุว่าไม่รับประทานอาหารตอนเช้า เสี่ยงต่อการเกิดปัญหาต่อสุขภาพ ทั้งหลอดเลือดอุดตัน เส้นเลือดแตกในสมอง และโรคหัวใจ
ท่าทางหมออย่างผมก็ไม่รอดเหมือนกัน เพราะไม่ชอบรับประทานข้าวเช้า ผมเลยต้องรีบมาแบ่งปันข้อมูล
รายงานฉบับนี้ ได้ติดตามวิถีชีวิตของชายหญิงชาวญี่ปุ่นระหว่างช่วงปี 1995 จนถึงปี 2010 กลุ่มตัวอย่างมีจำนวน 82,772 คน อายุระหว่าง 45-74 ปี โดยทั้งหมดเริ่มต้นจากการไม่มีโรคประจำตัว และแบ่งเป็นกลุ่มๆ ประกอบด้วย 1.กลุ่มที่รับประทานอาหารเช้าทุกวัน 2.กลุ่มรับประทานอาหารเช้าบ้างไม่รับประทานบ้าง และ 3.กลุ่มที่ไม่รับประทานอาหารเช้าเลย
จากการติดตามในช่วง 15 ปี ผลปรากฏว่ากลุ่มตัวอย่างเกิดโรคหลอดเลือดสมอง 3,772 ราย เส้นเลือดแตกในเนื้อสมอง 1,051 ราย เส้นเลือดแตกในเยื่อหุ้มสมอง 417 ราย และเป็นหลอดเลือดอุดตัน 2,286 ราย แถมมีเส้นเลือดหัวใจตัน 870 ราย
ทั้งนี้ ภาวะที่เกิดขึ้นสัมพันธ์แนบแน่นกับการไม่รับประทานอาหารเช้า ซึ่งพบว่ายิ่งอดอาหารเช้าบ่อย ยิ่งมีความเสี่ยงมีอาการดังกล่าวสูง กลไกที่น่าจะเกี่ยวข้องดูจะสัมพันธ์กับความดันโลหิตสูง โดยเฉพาะในช่วงเช้ามืดต่อช่วงเช้า ซึ่งเป็นเวลาที่หลอดเลือดชอบแตกในสมอง
ส่วนข้อสันนิษฐานว่า มูลเหตุจะเนื่องจากความเครียด ส่งผลจากสมองส่วน hypothalamus ลงมาถึงต่อมใต้สมอง และลงมายังต่อมหมวกไตหรือไม่นั้น อาจจะบอกไม่ได้ แต่ถ้าอธิบายจากระบบนี้จะมีสารสื่อสมองหลายตัว รวมทั้งฮอร์โมนสเตียรอยด์ด้วย ซึ่งส่งผลถึงความดันโลหิตและเส้นเลือดในร่างกาย
อย่างไรก็ตาม รายงานฉบับนี้ยังระบุว่าในคนเอเซีย เช่น ญี่ปุ่น ฯลฯ อาจแตกต่างจากพวกฝรั่งในกลุ่มประเทศตะวันตก โดยที่ฝรั่งไม่รับประทานข้าวเช้า จะมีอุบัติการณ์หัวใจวายมากกว่าเส้นเลือดสมองแตกหรืออุดตัน