เมื่อพูดถึงผักอย่าง "มะระ" ใคร ๆ ที่เคยได้ลิ้มลองคงนึกถึงรสชาติของความขมปร่าที่ลิ้นขึ้นมาได้ทันที แต่ในเมื่อ "หวานเป็นลม ขมเป็นยา" ตามคำเปรียบเปรยที่คนโบราณกล่าวไว้ ความขมเพียงเล็กน้อยของมะระ จึงสู้ไม่ได้กับประโยชน์ทางอาหารและสรรพคุณทางยาที่มีมากมายจนเรานึกไม่ถึง...
มะระเป็นพืชล้มลุกชนิดไม้เถา จัดเป็นผักตระกูลเดียวกับ ฟัก แตงกวา บวบ ค้นพบครั้งแรกในประเทศจีน ก่อนที่แพร่ขยายไปในแถบทวีปเอเชียและอินเดีย จนกลายเป็นผักที่ใคร ๆ ก็รู้จักทุกวันนี้ ปัจจุบันในบ้านเรานิยมบริโภคมะระเพียงสองชนิด คือ มะระขี้นก ซึ่งมีขนาดเล็ก ผิวขรุขระ สีเขียวแก่ หัวและท้ายเรียวแหลม มีรสชาติขม และมะระจีน ซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่ชาวจีนนำเข้ามาในประเทศไทย ลักษณะผลมีขนาดใหญ่ สีเขียวอ่อน น้ำหนักมาก แต่มีความขมน้อยกว่า
มะระทำไมขม
เหตุที่มะระมีรสขม เพราะในมะระมีสารเคมีชนิดหนึ่งชื่อ Momodicine ซึ่งมีสรรพคุณในการช่วยกระตุ้นความรู้สึกให้อยากอาหาร ขณะเดียวกันก็ยังช่วยให้น้ำย่อยในกระเพาะอาหารทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น อีกทั้งรสขมที่แฝงอยู่ในผลมะระยังมีสรรพคุณเป็นยาระบายอย่างอ่อน ๆ โดยเฉพาะผู้มีปัญหาเรื่องท้องผูกเป็นประจำ จึงสมควรที่จะนำมะระมาปรุงอาหารกินบ่อย ๆ
ทั้งมะระจีนและมะระขี้นสามารถนำมาประกอบอาหารได้มากมายหลายชนิด เช่น มะระต้มจืด แกงจืดมะระยัดไส้ มะระผัด ยำมะระสด หรือลวกจิ้มน้ำพริก แถมราคาก็ไม่แพงมาก ตามท้องตลาดโดยเฉลี่ยจะอยู่ที่กิโลกรัมละ 10-30 บาท ขึ้นอยู่กับสภาพเศรษฐกิจในช่วง ๆ นั้น
สำหรับการลดความขมของมะระเพื่อนำมาประกอบอาหารนั้น มีเคล็ดลับว่าก่อนให้นำมะระที่หั่นหรือซอยแล้ว นำไปคลุกกับเกลือทิ้งไว้สักครู่ แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาดหรือ เวลาต้มมะระยัดไส้ ให้เปิดฝาหม้อไว้จนเดือด จะช่วยลดความขมของมะระได้
มะระ
หวานเป็นลม ขมเป็นยาจริง ๆ
แม้ว่ามะระจะขึ้นชื่อลือชาเรื่องความขมจนติดลิ้น แต่ก็มีคุณค่าทางโภชนาการ เพราะในมะระมีสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายมากมาย เช่น แคลเซียม ช่วยเสริมสร้างการทำงานของกระดูกและฟัน ช่วยให้เลือดแข็งตัว มีฟอสฟอรัสซึ่งทำงาน ซึ่งทำงานสัมพันธ์กับแคลเซียมในการบำรุงกระดูกและฟัน บำรุงสมอง กล้ามเนื้อ วิตามินซีที่ช่วยให้ผิวพรรณผ่องใส อีกทั้งยังมีเบต้าแคโรทีนในปริมาณสูง ช่วยในการสร้างภูมิคุ้มกันโรคและปกป้องเซลล์จากการทำลายของสารก่อมะเร็ง
นอกจากนั้นส่วนอื่น ๆ ของต้นมะระยังเป็นพืชผักสมุนไพรที่มีสรรพคุณทางยาอีกหลายประการ เช่น ใบสดใช้ต้มดื่มเพื่อบรรเทาอาการหวัด รักษาแผลในกระเพาะอาหาร แก้อาการร้อนใน กระหายน้ำ ลดการบวมหรือฟกช้ำตามร่างกาย และใช้ทาแก้อาการผื่นคันได้
ส่วนผลมะระสุก คั้นเอาแต่น้ำ ใช้ทาหน้าเพื่อแก้อาการสิวอักเสบ ผลดิบ ใช้ลวกกินกับน้ำพริก แก้อาการปวดเข่าในผู้สูงอายุ หรือแม้แต่เมล็ดมะระก็มีคุณสมบัติในการปรับธาตุในร่างกายให้เกิดความสมดุล รากสดของมะระใช้ต้มน้ำดื่มแก้ไข้ และบรรเทาอาการของโรคริดสีดวงทวารได้ด้วย
ถึงมะระจะมีรสชาติค่อนข้างขม แต่มะระก็ได้รับความนิยมจากคนรักสุขภาพนำผลสด ๆ มาคั้นเป็นน้ำดื่ม เพราะน้ำที่ได้จากผลมะระมีสรรพคุณในการช่วยฟอกเลือดและกระตุ้นการทำงานของตับให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น รวมทั้งยังมีคุณสมบัติช่วยลดน้ำตาลในเลือดและเพิ่มอินซูลินตามธรรมชาติให้กับร่างกาย เหตุนี้น้ำมะระจึงเป็นเครื่องดื่มที่เหมาะกับผู้ป่วยเบาหวานอย่างยิ่ง
ในการเลือกซื้อมะระมาทำอาหารแต่ละครั้งนั้น ถ้าไม่อยากได้มะระแก่ไปทำอาหาร ควรสังเกตที่หนามของมะระ ถ้าหนามมีลักษณะแข็ง แสดงว่ามะระนั้นแก่เต็มที่ ไม่ควรซื้อเพราะจะมีรสขมมาก แต่ถ้าหนามมีลักษณะอ่อนนิ่ม แสดงว่าเป็นมะระอายุน้อยและไม่ขม สามารถนำมาประกอบอาหารได้