นายพินิจ จารุสมบัติ ประธานสภาวัฒนธรรมไทย-จีน เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ได้นำนักธุรกิจจีนและคณะในสมาคมนักธุรกิจยอดเยี่ยมเชื้อสายจีนทั่วโลก (The World Eminence Chinese Business Association หรือ WECBA) จำนวน 44 คนมาเยี่ยมชมหัวเมืองท่องเที่ยวของไทยใน 3 จังหวัด คือ เมืองพัทยา จ.ชลบุรี จ.ภูเก็ต และ จ.เชียงใหม่
มีจุดประสงค์เพื่อเจรจาร่วมทุนกันระหว่างฝ่ายจีน คือ บริษัท ทูจอย แฮปปิเนส อินเตอร์เนชั่นแนล อินเวสเมนท์ กรุ๊ป จำกัด, บริษัท หวงซาน แฮปปี้ นิว เวิลด์ จำกัด และบริษัท เอฟที (เซี่ยงไฮ้) อินดัสเทรียล จำกัด และฝ่ายไทย คือ บริษัท สุดทางรักกรุ๊ปเพื่อลงทุนก่อสร้างโครงการ "บ้านหลังที่ 2" เป็นการบริการท่องเที่ยว มีการพัฒนาที่พักอาศัยจัดเป็นลักษณะสโมสรส่วนตัวสำหรับสมาชิก และจะเปิดรับสมาชิกเฉพาะนักธุรกิจชาวจีนระดับพรีเมี่ยมเพื่อเข้ามาพักผ่อน เน้นการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม สุขภาพ ศาสนา และติดต่อเจรจาธุรกิจ
"เราหวังว่าโครงการนี้จะเพิ่มคุณภาพนักท่องเที่ยวที่เข้ามาในไทยมากขึ้น เพราะนักท่องเที่ยวสมาชิกสโมสรนี้เป็นลูกค้าระดับบน คาดว่าจะมีการใช้จ่ายหลักแสนบาทต่อคนต่อครั้ง ซึ่งลูกค้าระดับนี้ปัจจุบันยังมีน้อยไม่ถึง 10% ของนักท่องเที่ยวจีนทั้งหมด เป็นการนำกำลังซื้อเข้ามาหมุนเวียนเศรษฐกิจภายในประเทศ และอาจต่อยอดให้นักธุรกิจจีนพบช่องทางลงทุนอื่น ๆ เพิ่มเติมได้อีก" นายพินิจกล่าว
เลือกไทยเป็นบ้านหลังที่ 2
นายหลู จุ้น ชิง ประธานกรรมการ บริษัท ทูจอย แฮปปิเนส อินเตอร์เนชั่นแนล อินเวสเมนท์ กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยว่า โครงการบ้านหลังที่ 2 จะเป็นการสร้างบริการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมและสุขภาพ และการให้คำปรึกษาความร่วมมือทางธุรกิจในไทย
เหตุที่ตัดสินใจเลือกประเทศไทย คือ 1.ไทยเป็นเมืองท่องเที่ยวและที่ตั้งอยู่ใกล้ประเทศจีน เดินทางสะดวก 2.นับถือศาสนาพุทธเป็นศาสนาหลัก วัฒนธรรมใกล้เคียงกัน 3.การให้บริการของไทยเป็นอันดับต้น ๆ ของโลก ทั้งโรงแรม ร้านอาหาร และอื่น ๆ
ทั้งนี้ ทูจอยเป็นบริษัทให้คำปรึกษาและเชื่อมโยงการเจรจาธุรกิจแก่บริษัทหรือองค์กรต่าง ๆ ในประเทศจีน และคาดว่าจะเริ่มจัดตั้งบริษัททูจอยในประเทศไทย เพื่อดำเนินธุรกิจลักษณะเดียวกันด้วย
ลงทุนห้องพัก 900 ห้อง
ด้านนายซุน เทียน ฉวุง ประธานกรรมการ บริษัท หวงซาน แฮปปี้ นิว เวิลด์ จำกัด กล่าวว่า รูปแบบธุรกิจของโครงการบ้านหลังที่ 2 จะเป็นการพัฒนาสโมสร โดยสร้างบ้านพักอาศัยขึ้นมาใน 3 เมืองหลัก คือ พัทยา ภูเก็ต เชียงใหม่ จัดเป็นลักษณะสโมสรเฉพาะสำหรับสมาชิกสามารถเข้าพักได้ มีมูลค่าการลงทุนพัฒนาอสังหาริมทรัพย์รวม 5,000 ล้านบาท
ขณะนี้เริ่มก่อสร้างแห่งแรกแล้วที่โครงการ "888 วิลลาส พัทยาใต้" เป็นทาวน์เฮาส์ระดับลักเซอรี่ใน ซ.พัทยาใต้ 16 จำนวน 72 ยูนิต รวมมี 292 ห้อง คาดว่าจะรองรับผู้เข้าพักได้ 5,800 คน ใน 1 ปี ส่วนที่ภูเก็ตและเชียงใหม่ยังอยู่ระหว่างศึกษาทำเลและจัดซื้อที่ดิน คาดว่าจะก่อสร้างที่พักอาศัยเพื่อรองรับผู้เข้าพักได้จำนวนใกล้เคียงกัน ในเบื้องต้นประมาณ 88 ยูนิต/แห่ง รวมทั้ง 3 โครงการ อยู่ที่ประมาณ 900 ห้อง แต่รูปแบบดีไซน์อาจจะแตกต่างออกไป เพื่อให้เข้ากับลักษณะพื้นที่
ตั้งเป้าสมาชิก 1.6 หมื่นคน
นายซุนกล่าวว่า ตั้งเป้ามีสมาชิกโครงการบ้านหลังที่ 2 จำนวน 1.6 หมื่นราย ภายใน 3 ปี เชื่อว่าจะได้รับความสนใจจากชาวจีนจำนวนมาก เพราะเมืองไทยเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่คนจีนนิยมและมีการบริการดี และแฮปปี้ นิว เวิลด์ เองดำเนินกิจการโรงแรมและสโมสรอยู่แล้วในจีน มีฐานลูกค้าสมาชิกกว่า 2.9 แสนคนที่สามารถเสนอขายแพ็กเกจเพื่อเป็นสมาชิกสโมสรนี้ได้
โดยเบื้องต้นค่าสมาชิกตลอดชีพแบ่งเป็น 3 กลุ่ม คือ กลุ่มที่ 1 เจ้าของกิจการและผู้บริหารระดับสูง 5 แสนบาทต่อคน กลุ่มที่ 2 ครอบครัวของกลุ่มที่ 1 ราคา 2.5 แสนบาทต่อคน และกลุ่มที่ 3 พนักงานเจ้าหน้าที่ในบริษัทของกลุ่มที่ 1 ราคา 1.5 แสนบาทต่อคน ลูกค้าสามารถเข้าพักที่สโมสรได้สูงสุด 24 วันต่อปี โดยเลือกพักได้ทั้ง 3 แห่ง และหลังจากนั้นจะมีการคิดค่าบริการรายปีเพิ่มเติม
"ในประเทศจีนมีการจัดสโมสรแบบนี้จำนวนมาก แต่ที่ไทยคาดว่าเราจะเป็นสโมสรแห่งแรกที่ตั้งขึ้นเพื่อชาวจีนโดยเฉพาะ มีการให้บริการต่าง ๆ เช่น รถรับ-ส่งจากสนามบินและท่องเที่ยว จัดงานสัมมนา งานเลี้ยงต้อนรับ" นายซุนกล่าวและว่า
คาดว่าจะสามารถเริ่มรับสมัครสมาชิกได้ตั้งแต่ครึ่งปีหลัง 2559 และเริ่มบริการได้เมื่อโครงการ 888 วิลลาส พัทยาใต้ สร้างเสร็จภายในต้นปี 2560 นี้
พาชม "888 วิลลาส" สโมสรบ้านหลังที่ 2 ชาวจีน
"โครงการ 888 วิลลาส พัทยาใต้" เดิมพัฒนาเป็นทาวน์เฮาส์เพื่อขาย โดย "คุณแดง-บัณฑิต ศิริตันหยง" ประธานกรรมการบริหาร บริษัท สุดทางรักกรุ๊ป จำกัด หรือที่รู้จักกันในนามเจ้าของร้านอาหาร "สุดทางรัก" สุดโด่งดัง ที่ผันตัวเองมาเป็นนักพัฒนาที่ดิน
โดยโครงการมูลค่า 1,600 ล้านบาท พัฒนาที่ดิน 12 ไร่ ในซอยพัทยาใต้ 16 เป็นทาวน์เฮาส์ 3-4 ชั้น จำนวน 72 ยูนิต ตกแต่งแบบโมเดิร์น คอนเทมโพรารี่ เริ่มตอกเข็มก่อสร้างเมื่อเดือน มี.ค.ปีที่แล้ว กำหนดแล้วเสร็จเดือน มิ.ย. 2560
ภายในโครงการมีทาวน์เฮาส์ 3 ชั้น จำนวน 28 หลัง หน้ากว้าง 7.5 เมตร ขนาด 36 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย 300 ตร.ม. มี 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ และที่จอดรถ 2 คัน ส่วนแบบ 4 ชั้น มีจำนวน 45 หลัง ขนาดที่ดินและหน้ากว้างเท่ากัน แต่พื้นที่ใช้สอยเพิ่มเป็น 400 ตร.ม. ฟังก์ชั่น 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ ที่จอดรถ 2 คัน และเพิ่มลิฟต์ 1 ตัว
ไฮไลต์คือเป็นทาวน์เฮาส์อีโค บ้านทุกหลังจะติดแผงโซลาร์เซลล์บนหลังคา เพื่อเป็นการประหยัดพลังงาน และมีระบบบำบัดน้ำเสีย เพื่อนำกลับมาใช้ในการรดน้ำต้นไม้
อย่างไรก็ตาม "บัณฑิต" บอกว่า เนื่องจากตัดสินใจร่วมทุนกับนักลงทุนจีน คือ กลุ่มสมาคม WECBA จึงเปลี่ยนคอนเซ็ปต์โครงการเป็นสโมสรบ้านหลังที่ 2 ที่เจาะกลุ่มลูกค้าจีนเป็นหลัก
"ที่ตัดสินใจแบบนี้เพื่อลดความเสี่ยงการทำธุรกิจ ทางพาร์ตเนอร์ชาวจีนมีฐานลูกค้าอยู่แล้ว โดยเราไม่ต้องทำการตลาดมากเท่าการขายขาด และยังต่อยอดคอนเซ็ปต์ไปพัฒนาที่เมืองอื่น ๆ ได้" บัณฑิตกล่าวย้ำและว่า
การปรับเปลี่ยนโครงการอสังหาฯขายขาดมาเป็นสโมสรนั้นไม่ยุ่งยาก ปรับแบบเฉพาะบริเวณคลับเฮาส์ให้ตอบรับการใช้งานเชิงธุรกิจ เพิ่มห้องประชุมสัมมนา และห้องทำงานออนไลน์เท่านั้น ส่วนแบบทาวน์เฮาส์ทั้งหมดยังคงรูปแบบดีไซน์เดิม
"เชื่อว่าเมื่อเริ่มรับสมัครสมาชิกจะสามารถคืนทุนได้ใน 4 ปี ส่วนยอดขายเดิมที่มีลูกค้าวางเงินดาวน์ไปแล้ว 30% ของโครงการ บริษัทอยู่ระหว่างคืนเงินพร้อมดอกเบี้ย"
/