อึ้งกันทั้งหมู่บ้าน !! ชาวสวนเผยเคล็ดลับ ได้เงินเดือนละครึ่งแสน

นายยอดรัก ยาทะยะ อายุ 54 ปี เปิดเผยว่า ตนและภรรยาเช่าที่จำนวน 24 ไร่ พลิกฟื้นผืนดินทำกิน โดยยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียง หลังจากก่อนหน้านี้ทำนาขาดทุนเป็นหนี้มาตลอด โดยพยายามเรียนรู้ ลองผิดลองถูก ล้มลุกคลุกคลานมาหลายครั้ง จนหันมาปลูกผักหลายอย่างในพื้นที่สวนของตนเอง โดยมีทั้ง มะระ พริก มะเขือ แตงกวา มะเขือเทศ 
 ทยอยปลูกในพื้นที่ สลับสับเปลี่ยนกันไป ทำให้มีผลผลิตสร้างรายได้ทุกวัน 1,000-1,500 บาท แล้วแต่ราคาผักในท้องตลาด



นายยอดรัก กล่าวอีกว่า ที่สวนใช้ระบบน้ำหยด เมื่อเกิดภาวะแห้งแล้งจะใช้น้ำจากบ่อบาดาลที่ขุดไว้สูบมาขังในร่องสวน แล้วใช้ปั๊มน้ำสูบต่อส่งสู่ท่อน้ำหยด ทำให้ลดการใช้น้ำ และมีผลผลิตเพิ่มขึ้น ทั้งลดต้นทุนที่ต้องซื้อยาฆ่าแมลงมาใช้น้ำหมักชีวภาพ ที่ได้เรียนรู้มาตลอดชีวิตนำมาใช้กับพืชในสวน นอกจากนั้น ยังใช้ภูมิปัญญาชาวบ้านในการจับแมลงวันทองโดยใช้ขวดน้ำพลาสติกเจาะทางเข้าทั้ง 2 ด้าน แล้วนำน้ำใส่ในขวด แขวนไว้ในแปลงผัก เป็นการปราบแมลงแบบไม่ต้องใช้ยา ลดต้นทุนรายจ่าย เพิ่มรายได้

 ชาวบ้านเมืองอ่างทองต่างพากันพูดถึงมากที่สุดในเรื่องราวของผัวเมียครอบครัวหนึ่งที่อยู่ในพื้นที่มีรายได้มหาศาลด้วยพื้นที่ทำไร่ทำสวนเพียงไม่กี่ไร่เท่านั้น



 ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปพิสูจน์ความจริงที่บ้านเลขที่ 27 หมู่ 5 ต.ตลาดกรวด อ.เมือง จ.อ่างทอง มีชาวสวนผัวเมียครอบครัวหนึ่ง ปลูกผักครบวงจรแบบเศรษฐกิจพอเพียง สร้างรายได้เลี้ยงครอบครัว ส่งลูกเรียนหนังสือจนจบระดับอุดมศึกษาไป 2 คน ส่วนคนเล็กเรียนอยู่การบินพาณิชย์ เหลืออีก 2 ปีก็จะจบ



นายยอดรัก ยาทะยะ อายุ 54 ปี เปิดเผยว่า ตนและภรรยาเช่าที่จำนวน 24 ไร่ พลิกฟื้นผืนดินทำกิน โดยยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียง หลังจากก่อนหน้านี้ทำนาขาดทุนเป็นหนี้มาตลอด โดยพยายามเรียนรู้ ลองผิดลองถูก ล้มลุกคลุกคลานมาหลายครั้ง จนหันมาปลูกผักหลายอย่างในพื้นที่สวนของตนเอง โดยมีทั้ง มะระ พริก มะเขือ แตงกวา มะเขือเทศ ทยอยปลูกในพื้นที่ สลับสับเปลี่ยนกันไป ทำให้มีผลผลิตสร้างรายได้ทุกวัน 1,000-1,500 บาท แล้วแต่ราคาผักในท้องตลาด

 นายยอดรัก กล่าวอีกว่า ที่สวนใช้ระบบน้ำหยด เมื่อเกิดภาวะแห้งแล้งจะใช้น้ำจากบ่อบาดาลที่ขุดไว้สูบมาขังในร่องสวน แล้วใช้ปั๊มน้ำสูบต่อส่งสู่ท่อน้ำหยด ทำให้ลดการใช้น้ำ และมีผลผลิตเพิ่มขึ้น ทั้งลดต้นทุนที่ต้องซื้อยาฆ่าแมลงมาใช้น้ำหมักชีวภาพ ที่ได้เรียนรู้มาตลอดชีวิตนำมาใช้กับพืชในสวน นอกจากนั้น ยังใช้ภูมิปัญญาชาวบ้านในการจับแมลงวันทองโดยใช้ขวดน้ำพลาสติกเจาะทางเข้าทั้ง 2 ด้าน แล้วนำน้ำใส่ในขวด แขวนไว้ในแปลงผัก เป็นการปราบแมลงแบบไม่ต้องใช้ยา ลดต้นทุนรายจ่าย เพิ่มรายได้
การปลูกผักในพื้นที่เช่าจำนวน 24 ไร่ ทำกันในครอบครัว มีตัวเองกับภรรยาเป็นหลัก และลูกๆ ก็มาช่วยกัน ไม่มีลูกจ้างเลยสักคน ซึ่งการปลูกผักแต่ละครั้งจะทยอยปลูกสลับผลัดเปลี่ยนกันไปให้ครบวงจร เพื่อให้มีรายได้ไว้ใช้จ่ายในครอบครัวทุกวัน และที่ภาคภูมิใจสุดๆ คือ ปลูกผักสร้างรายได้ส่งลูกเรียนจบ ทำงานแล้ว 2 คน มีจบทางด้านสาธารณสุขทำงานแล้ว อีกคนเรียนจบทางวิศวกรรม ก็ได้งานทำแล้ว ส่วนคนเล็กกำลังเรียนสาขาการบินพาณิชย์ เหลืออีก 2 ปีก็จะจบ เป็นความสำเร็จที่น่าชื่นใจของชาวสวนธรรมดาคนหนึ่ง" นายยอดรัก กล่าว

Related Post

Previous
Next Post »