มีที่ดิน 4 ไร่ ตั้งใจไว้ว่าหลังเกษียณจะออกไปทำเกษตร แต่ก็ต้องลาออกก่อนเวลา ทั้งๆที่ยังไม่ได้เตรียมอะไรไว้เลย ตอนแรกยังคิดไม่ออกจะทำอะไรดี
ศิวาวุธ สงวนทรัพย์ อดีตผู้ช่วยทนายความที่ผันตัวเองมาเป็นเจ้าของสวนมะกรูด บ้านสนามจันทร์ อ.เมือง จ.นครปฐม เล่าว่า ตอนแรกคิดจะปลูกมะนาวนอกฤดู เพราะหน้าแล้งมะนาวมีราคาแพงทุกปี แต่ด้วยไม่มีความรู้การทำเกษตรแม้แต่นิดเดียว ประกอบกับช่วงนั้นศูนย์วิจัยและพัฒนาไม้ผลเขตร้อน มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน จัดอบรมการผลิตมะนาวนอกฤดูกับการทำสวนมะกรูดระยะชิด
“แต่ก่อนลงมือทำผมไปหาข้อมูลการซื้อขายในตลาดค้าส่ง-โรงงานแปรรูป แรกๆไม่มีใครอยากคุยด้วย แถมบางรายบอกว่า มีมะกรูดเมื่อไรแล้วค่อยมาเจอกัน ยอมรับว่าอายมาก แต่ความอยากมันมีมากกว่าเลยเก็บข้อมูลไปเรื่อย ซึ่งเรื่องแบบนี้เกษตรกรบ้านเราไม่ค่อยศึกษา คิดปลูกอะไรก็ลงมือทำเลย ถึงได้มีปัญหาเป็นหนี้กันมากมาย”
การสำรวจตลาดทำให้รู้ตลาดใบมะกรูดไม่ธรรมดา ความต้องการมีมากทั้งในประเทศและต่างประเทศ ราคาไม่แกว่งเหมือนมะนาว ในประเทศราคาอยู่ระหว่าง กก.ละ 7-15 บาท แต่ถ้าปลูกได้ดี ทำให้ใบมะกรูดมีคุณภาพส่งออกได้ ราคารับซื้ออยู่ที่ กก.ละ 100-150 บาท
ศิวาวุธ จึงมองไกลไปยังต่างประเทศ จากที่จะปลูกมะกรูดในที่โล่งกลางแจ้ง ปรับมาเป็นสร้างโรงเรือนติดมุ้ง เพื่อให้การจัดการปัญหาศัตรูใบมะกรูด หนอนชอนใบ เพลี้ยไฟ ไรแดง และแคงเกอร์ ได้ง่ายขึ้น…เพื่อให้ได้ใบมะกรูดมีคุณภาพ สีสวย รูปทรงไม่บิดเบี้ยวตามมาตรฐานส่งออก
“ลงมือไปแล้วมันไม่ง่ายอย่างที่คิดไว้ แม้จะผ่านการอบรมมา แต่เพราะเราไม่มีความรู้การปลูกพืชเลย ช่วงมะกรูดออกใบใหม่ เห็นก้อนเล็กๆสีขาว เคลื่อนไหวได้ ไม่รู้ว่ามันคืออะไร ต้องตัดใบมะกรูดใส่ถุง ขับรถไปหาอาจารย์ ม.เกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน ถึงรู้ว่ามันคือเพลี้ยแป้ง ต้องตัดแต่งกิ่งนำออกไปกำจัดข้างนอก เสียเวลาเสียรายได้ไปถึง 9 เดือน”
จากความไม่รู้กลายมาเป็นความรู้ เป็นประสบการณ์ ทุกวันนี้มะกรูด 4 ไร่ ทุกๆ 3 เดือน จะตัดใบขายได้ 4 ตัน หากเป็นใบสด จะส่งไปขายมาเลเซีย, สิงคโปร์ ส่วนใบแห้ง, ใบแช่แข็ง ส่งไปญี่ปุ่น ยุโรป และอเมริกา
ช่วยสร้างรายได้หลังเกษียณให้พอมี พอกิน…1 ไร่ 3 เดือนตัดขาย 1 ครั้ง ได้เงินแค่ 4 แสนบาทเท่านั้นเอง
ที่มา
http://news.thaiarcheep.com/2016/01/1-3-4.htmlhow to fine moey buy grow .......
0000000000000000000